วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ



ห้องน้ำถือเป็นแหล่งรวมของสิ่งสกปรก คนสมัยก่อนจึงถือว่าเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ แต่การไม่มีห้องน้ำอยู่ภายในบ้านคงเป็นไม่ได้ ความเชื่อเกี่ยวกับกับห้องน้ำจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนกลัว ลองไปหาเหตุผลพร้อมๆ กันครับ

ห้องน้ำอยู่กลางบ้าน ถือเป็นตำแหน่งแตกแยก ส่งผลให้คู่สามีภรรยามีความคิดไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มักมีเรื่องบาดหมางกันอยู่เสมอ และทำให้เก็บเงินเก็บทองไม่อยู่ โชคลาภดีๆ หลุดลอยหายไป" ห้องน้ำ-ห้องส้วมเป็นห้องที่เกิดมลภาวะได้ง่าย จึงจำเป็นต้องมีระบบระบายอากาศที่ดี เมื่อวางอยู่กลางบ้านก็จะทำให้ไม่มีการระบายอากาศที่ดี เมื่อเปิดประตูเข้าออกก็จะมีกลิ่นกระจายหมุนวียนอยู่ในบ้าน และอาจรวมไปถึงเชื้อโรคด้วยเนื่องจากแสงแดดส่องไปไม่ถึง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้อยู่อาศัยในบ้าน

ห้องน้ำที่อยู่ทางทิศตะวันออก ถือว่าเป็นทิศทางวางตำแหน่งห้องน้ำที่ดี จะทำให้คนภายในบ้านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างหน้าภาคภูมิใจ" ห้องน้ำที่อยู่ทางทิศตะวันออกนั้นจะได้รับแสงแดดในช่วงเช้า ทำให้ผู้ใช้ห้องน้ำได้รับแสงแดดไปด้วย ทำให้มีสุขภาพจิตดี ทำให้เริ่มต้นวันอย่างมีความสุข นอกจากนี้แสงแดดก็จะทำให้ฆ่าเชื้อโรคภายในห้องน้ำได้อีกด้วย

ห้องน้ำที่อยู่ทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้ ถือเป็นตำแหน่งที่ไม่ดีนัก เพราะถือเป็นตำแหน่งอัปมงคล ส่งผลให้เกิดเรื่องฟ้องร้องคดีความอยู่เสมอ และนำโรคภัยไข้เจ็บมาสู่คนในบ้านอยู่เสมอ ทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นทิศที่มีลมประจำพัดผ่านอยู่เสมอหากห้องน้ำอยู่ทางทิศนี้จะทำให้ลมพัดเอากลิ่น และสิ่งสรกปกในห้องน้ำกระจายไปทั่วบ้าน ส่งผลต่อสุขภาพและบรรยากาศภายในบ้าน

ห้องน้ำที่อยู่ในตำแหน่งปลายสุดของทางเดิน จะก่อให้เกิดพลังชี่พุ่งตรงเข้าหาห้องน้ำ ส่งผลเสียต่อระบบสืบพันธุ์หรือระบบกระเพาะอาหารของสมาชิกในครอบครัวได้ ให้แก้ไขด้วยการติดม่านกั้น หรือติดระฆังลมเพื่อกระจายชี่" ห้องน้ำเป็นห้องมีมีความเปียกชื้นตลอดทั้งวันเนื่องจากการใช้งาน และต้องการความเป็นส่วนตัว หากวางที่ตำแหน่งทางเดินจะสามารถทำให้มองเห็นได้จากระยะไกล ทำให้มุมมองไม่ดี การแก้ปัญหาก็แก้ไขด้วยหาม่าน หรือฉากกั้นมาช่วยปิดบังมุมมองหน้าห้องน้ำ

"ห้ามมีห้องน้ำมากกว่าจำนวนสมาชิกในบ้าน" เมื่อมีห้องน้ำมากกว่าจำนวนสมาชิก ก็จะทำให้ใช้งานห้องน้ำไม่ครบทุกห้อง การที่ปล่อยให้ห้องน้ำไว้ไม่ใช้งานเป็นเวลานานๆ จะทำให้น้ำที่หล่อเลี้ยงชักโครกถูกทิ้งไว้เป็นเวลานานโดยไม่มีการหมุนเวียน เมื่อมีฝุ่นผงหรือซากแมลงก็จะทำให้น้ำเน่าเสีย กลายเป็นแหล่งที่ก่อให้เกิดเชื้อโรค กลิ่นเหม็น หรือเมื่อน้ำเหล่านั้นแห้งก็อาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นย้อนกลับเข้ามาในบ้านได้อีกด้วย

ห้องน้ำห้องส้วมเป็นห้องที่มีการขับถ่ายของเสีย มีความชื้น มีกลิ่น จึงกลายเป็นห้องที่ไม่พึงปราถนาเท่าไหร่นัก การวางตำแหน่งจึงจำเป็นต้องมีการพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะก่อให้เกิดมลภาวะต่อห้องอื่นๆ ได้ง่าย ห้องน้ำที่ดีควรมีความโปร่ง โล่ง มีระบบการระบายอากาศที่ดี มีแสงแดดส่องถึง ตำแหน่งที่ดีจึงควรอยู่ทางด้านทิศตะวันตก เพราะเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดในช่วงบ่าย ซึ่งจะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี

*ลองนำไปใช้พิจารณาตกแต่ง ปรับเปลี่ยน แก้ไขดูนะครับ สำหรับการจัดแต่งตามหลักฮวงจุ้ย

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

10 เทคนิคดูแลบ้านหน้าฝน


แม้ปีนี้ฤดูฝนจะมาช้าสักหน่อย แต่ดูท่าว่าจะกินระยะเวลายาวทีเดียว และที่แตกต่างจากทุก ๆ ปี คือนอกจากฝนตกชุกแล้วยังมาพร้อมกับพายุลมแรง ซึ่งอาจก่อความเสียหายให้บ้านหลังงามของคุณได้ เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ผมจึงมีเทคนิคดูแลบ้านในช่วงหน้าฝนอย่างง่าย ๆ มาฝาก รับรองว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงคุณ ๆ แน่นอน
เริ่มด้วย..
1. หมั่นเช็กการรั่วซึมของหลังคา ฝ้า ผนัง การรั่วซึมของหลังคาหรือผนัง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ และส่วนใหญ่มักจะทราบเมื่อเกิดปัญหามาได้สักระยะหนึ่งแล้ว วิธีตรวจสอบง่าย ๆ คือ หมั่นสังเกตรอยรั่วซึมแตกร้าวของหลังคา ฝ้าเพดานและฝาผนัง หรือรอยต่อของวัสดุต่างๆ เช่น ขอบหน้าต่างว่ามีคราบรอยน้ำหรือไม่ ถ้าพบว่ามีการแตกร้าวหรือรั่วซึมจริงให้รีบติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญมาซ่อมให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยทิ้งไว้

2. ดูแลรางน้ำฝน อย่าปล่อยให้รางน้ำฝนมีเศษใบไม้ หรือขยะอุดตัน เพราะเวลาฝนตกหนักๆ อาจจะทำให้น้ำไหลย้อนเข้าไปรั่วภายในบ้านได้

3. ล้างท่อระบายน้ำ หมั่นตักขยะ เศษใบไม้ เศษดิน ขี้โคลน ออกจากบ่อดักขยะในบ้านของคุณ รวมทั้งล้างบริเวณระเบียง หรือเฉลียง เพื่อป้องกันไม่ให้ท่อระบายน้ำอุดตัน

4. ขยันขัดพื้น หลังฝนตก ควรขัดล้างพื้นรอบ ๆ บ้านอย่าให้มีตะไคร่จับ หรือเป็นคราบดิน อันเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ลื่นหกล้มได้ง่าย

5. คว่ำภาชนะที่ไม่ใช้ ภาชนะจำพวกถังน้ำที่วางอยู่นอกตัวบ้าน ควรจับวางคว่ำไว้ เพื่อไม่ให้มีน้ำขัง และกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออก

6. ตัดกิ่งไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ตัวบ้านให้สั้นเข้าไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้กิ่งไม้หักโดนตัวบ้าน เวลามีลมพายุแรง ๆ และป้องกันไม่ให้สัตว์เลื้อยคลานใช้เป็นทางเดินเข้าสู่ภายในบ้าน ข้อนี้อาจต้องพึ่งคนสวน หรือคนช่วยก็ได้

7. ทำไม้ค้ำยันให้ต้นไม้ บ้านที่เพิ่งปลูกต้นไม้ใหญ่ ควรทำไม้ค้ำยันต้นไม้ไว้ เพื่อให้ลำต้นตั้งตรง ไม่เอนเอียง หรือโค่นล้ม เมื่อมีลมพัดมาแรง ๆ และช่วยทำให้รากต้นไม้สามารถแผ่ขยายได้อย่างรวดเร็วด้วย

8.ย้ายเฟอร์นิเจอร์สนามหลบฝน เมื่อฝนตกบ่อย ๆ ขึ้น ชุดเฟอร์นิเจอร์สนามที่คุณเคยใช้นั่งเล่นกินลม คงไม่เหมาะที่จะใช้งานต่อไป ทางที่ดีควรหาที่จัดเก็บเพื่อหลบฝนหรือใช้ผ้าใบคลุมไว้

9.บ้านที่โล่งโปร่งสบายในหน้าร้อน เมื่อถึงฤดูฝนควรทำชายคา หรือกันสาดยื่นออกมาเพื่อกันไม่ให้ฝนสาดเข้าไปกระทบกับช่องเปิดพวกบรรดาประตู หน้าต่าง หรือผนังบ้านในส่วนต่าง ๆ เพื่อป้องกันการผุพัง คราบเชื้อรา หรือคราบตะไคร่น้ำจับเกาะบริเวณผนัง

10. ปลูกต้นไม้ใหม่หรือย้ายต้นไม้ในกระถางลงดิน ต้นฤดูฝนเป็นเวลาที่เหมาะกับการปลูกต้นไม้ใหม่ ๆ ให้กับสวนของคุณ โดยเฉพาะการลงต้นไม้ขนาดใหญ่ ควรทำในช่วงนี้ เพราะอากาศมีความชื้นสูง และมีน้ำฝนมาช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ดิน ใบไม้จึงระเหยน้ำไม่มาก ต้นไม้จะมีโอกาสรอดสูง

ถ้าคุณทำได้หมดทุกข้อ รับรองว่าหน้าฝนนี้ถึงจะไม่ค่อยได้ออกไปไหน ๆ แต่คุณก็สามารถอยู่บ้านได้อย่างสบายและมีความสุขแน่นอน...^-^

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

การแต่งบ้านตามปีเกิด


การแต่งบ้าน แต่งสวนตามปีเกิด
บ้านคนปีชวด

เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีชวด ควรมีเครื่องดนตรี อย่างน้อย 1 ชิ้น อยู่ในบ้าน เช่น ขลุ่ย เม้าท์ออร์แกน เปียโน กีตาร์ ฯลฯ แม้จะเล่นไม่เป็น เพียงมีไว้ประดับบ้านก็ถือว่าถูกโฉลก นำโชคดีมาสู่ในบ้าน แต่ถ้าเป็นเครื่องดนตรีที่สมาชิกในบ้านสามารถเล่นได้จริง ๆ หรือมีการเล่นร่วมดนตรีด้วยกันภายในครอบครัว เสียงดนตรีที่ดังขึ้นดุจดั่งเสียงสวรรค์ที่เรียกทรัพย์นับล้านเข้าสู่บ้านคนปีชวด

บ้านคนปีฉลู

เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีฉลู ไม่ควรมีอะไรที่เป็นทรงกลม ยกเว้นโต๊ะอาหารที่เป็นโต๊ะกลมได้ นอกนั้นแล้วสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านควรเป็นเหลี่ยมเป็นมุมทั้งหมด ตัวอย่างเช่น นาฬิกาทรง 8 เหลี่ยม อ่างบัวทรง 5 เหลี่ยม กระถางต้นไม้ทรง 4 เหลี่ยม รวมไปถึงลวดลายของเหล็กดัด วอลล์เปเปอร์ ก็ควรเป็นรูปทรงเหลี่ยม หลีกเลี่ยงรูปวงกลมและรูปโค้งมนต่าง ๆ

บ้านคนปีขาล

เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านของคนปีขาล ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ควรมีขนาดใหญ่กว่าปกติหน้าบ้านควรมีต้นไม้ใหญ่ หรือสัญลักษณ์ที่ใหญ่โตโดดเด่น อาทิ มีประตูหน้าบ้านบานใหญ่ มีโอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ เป็นต้น ในห้องรับแขกควรมีรูปภาพพระอาทิตย์ขึ้นประดับไว้ จะช่วยเพิ่มพลังอำนาจ และบารมีให้มีมากขึ้นกว่าเดิม

บ้านคนปีเถาะ

เพื่อความสุขและความสำเร็จ บ้านของคนปีเถาะควรเป็นบ้านที่มีความร่มรื่น ร่มเย็น มีสนามหญ้า ต้นไม้ ดอกไม้ อ่างบัว ตัวบ้านมีความโปร่งโล่งสบาย มีแสงแดดและแสงสว่างพอประมาณ ในห้องนอนหรือห้องรับแขก ควรมีตุ๊กตาเซรามิกรูปกระต่าย รูปไก่ รูปไข่ รูปหมู รูปเด็กทารก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย จะช่วยให้เงินทองไม่รั่วไหลไปไหน ได้ปรับเงินเดือน ได้เลื่อนตำแหน่ง ได้พบกันความสมหวังและสมปรารถนาทุกประการ

บ้านคนปีมะโรง

เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้านของคนปีมะโรง ควรจะมีชื่อบ้าน โดยเป็นชื่อที่เป็นมงคลและถูกต้องตามหลักทักษาของเจ้าของบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะใช้ชื่อหรือนามสกุลของเจ้าของบ้านมาเป็นชื่อบ้าน ซึ่งถ้าชื่อหรือนามสกุลถูกโฉลกอยู่แล้ว ชื่อบ้านก็ย่อมจะดีตามไปด้วย ชื่อบ้านต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะของบ้านและผู้อยู่อาศัย ห้ามขัดแย้ง หรือตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น บ้านทาสีฟ้าทั้งหลังแต่ตั้งชื่อบ้านว่าเรือนสีชมพู หรือบ้านอยู่ติดภูเขา แต่ตั้งชื่อบ้านว่า บ้านริมทะเล ลักษณะอย่างนี้ถือว่าไม่เหมาะสมจะทำให้อับโชค พบเจอแต่อุปสรรคขวากหนามในการดำเนินชีวิต

บ้านของคนปีมะเส็ง

เพื่อความเจริญรุ่งเรือง บ้านของคนปีมะเส็งต้องมีแสงสว่างอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ต้องให้ความรู้สึกว่าสว่างอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ควรจะมีไฟภายนอกบ้านอย่างน้อยสัก 1 ดวงที่เปิดให้ความสว่างอยู่ตลอดคืนโดยเฉพาะไฟดวงไหนหากเปิดไว้แล้ว นอกจากจะให้ความสว่างแก่บ้านของเรายังให้ความสว่างและความปลอดภัยแก่บ้านหลังอื่นและผู้ที่เดินทางผ่านไปมา ถือว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง บ้านมืด ๆ จะนำภัยอันตรายและโชคร้ายมาสู่คนปีมะเส็ง

บ้านคนปีมะเมีย

เพื่อความเจริญก้าวหน้า บ้านของคนปีมะเมีย ต้องมีความเคลื่อนไหว เช่น มีธงโบกสะบัด มีน้ำพุ มีกังหัน มีโมบาย มีสุนัขหรือแมววิ่งเล่นกัน มีต้นไม้ใหญ่ที่โอนเอนตามสายลม ภายในบ้านก็ควรมีสัญลักษณ์ของความเคลื่อนไหวหรือความเร็ว เช่น รถยนต์โบราณรถไฟ เรือใบ เรือสำเภา เครื่องบิน จรวด ฯลฯ เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านที่สงบ นิ่งและเงียบเกินไป จะทำให้คนปีมะเมียอึดอัด และอับโชค

บ้านคนปีมะแม

เพื่อความสุขและความสำเร็จ บ้านของคนปีมะแม ควรเป็นบ้านที่สะสมงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพวิวทิวทัศน์ งานหล่อ งานปั้น งานแกะสลัก หนังสือ ซีดีเพลง ดีวีดีภาพยนตร์ ฯลฯ ล้วนถูกโฉลกและนำโชคดีมาสู่คนปีมะแม และถ้าผลงานศิลปะเหล่านั้น เป็นฝีมือของเจ้าของบ้านด้วยแล้ว จะยิ่งถูกโฉลกและโชคดีเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

บ้านของคนปีวอก

เพื่อความเจริญรุ่งเรือง บ้านของคนปีวอก ควรเป็นบ้านที่มีการขยับขยาย เพิ่มเติม ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลาเพื่อให้สอดคล้องสมดุลกับผู้อยู่อาศัย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นบ้านที่มีการเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น มีต้นไม้ใหม่ ๆ มาปลูกเพิ่มอยู่เสมอ มีเฟอร์นิเจอร์ใหม่มาทดแทนของเดิมที่ชำรุดเสียหาย มีเก้าอี้ม้าหินชุดใหม่มาตั้งแต่เพิ่มในสวน มีการเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ทุกๆ 2 ปี และทาสีบ้านใหม่ทุก ๆ 3 ปี

บ้านของคนปีระกา

เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้านของคนปีระกาต้องสวย สะอาดสดใส และดูใหม่อยู่เสมอ สิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน ควรจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย รั้วบ้านและอาคารภายนอกบ้านควรทาสีใหม่ทุก ๆ 3 ปี ภายในบริเวณบ้าน ห้ามมีสิ่งของแตกหัก ชำรุด เสียหาย ใบไม้แห้งต้นไม้หรือกิ่งไม้ที่เหี่ยวเฉาโรยราโดยเด็ดขาด รอยร้าวบนผนัง หากพบเจอต้องรีบแก้ไขในทักที หลอดไฟ กอลน กุญแจ ประตู หน้าต่าง ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

บ้านของคนปีจอ

เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีจอ ควรจะมีสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงนำโชคของคนปีจอ เพราะความซื่อสัตย์และแสนรู้ของสุนัข จะช่วยให้คนปีจออารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง ไม่เครียด ดังนั้นไม่ว่าจะคิดหรือทำอะไรก็ล้วนแต่โชคดีมีความสำเร็จ สุนัขที่เลี้ยงไว้ไม่ควรเลี้ยงตัวเดียว ควรเลี้ยงตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป แต่ก็อย่าให้มากเกิน ควรให้เหมาะสมกับบริเวณบ้านและกำลังในการดูแลเอาใจใส่

บ้านของคนปีกุน

เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีกุน ต้องมีห้องครัวที่กว้างขวาง สะอาด สะดวกสบาย มีอุปกรณ์ในการทำครัวครบครัน เพราะการเข้าครัวทำอาหารของคนปีกุน ถือเป็นเรื่องมงคลนำมาซึ่งโชคลาภ ความสำเร็จ และความร่ำรวย และถ้ามีตุ๊กตาเซรามิกรูปหมูสีขาวหรือสีชมพู สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์วางไว้ในห้องรับแขกหรือห้องรับประทานอาหารด้วย จะยิ่งถูกโฉลก โชคดี เฮง เฮง เฮง เพิ่มมากขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ฮวงจุ้ย จัดทิศหัวนอน ที่ส่งเสริมโชคลาภทางฮวงจุ้ย


วันนี้ผมขอนำเสนอความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยการนอนอีกเรื่องนะครับ..

ฮวงจุ้ยเกี่ยวกับ ห้องนอนและเตียงนอน

ถือเป็นสถานที่สำคัญ 1 ใน 3 ของวิชาฮวงจุ้ย หากต้องการเสริมฮวงจุ้ยให้ได้ผลมากที่สุด เราจึงควรใส่ใจดูแลฮวงจุ้ยในห้องนอนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะทิศทางของหัวนอน เพราะมนุษย์เราต่างใช้เวลาบนที่นอนประมาณวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อการนอนหลับพักผ่อน และการฟิ้นฟูสุขภาพพลังกายพลังใจ ภายหลังจากที่ทุกท่านต้องเหน็ดเหนื่อยกับชีวิต และการประกอบภารกิจหน้าที่การงานมาตลอดวันการนอนหลับจึงเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด เพื่อการสะสมเติมพลังงานให้ชีวิต ให้มีเรียวแรงความคิดอันสดใสในการประกอบหน้าที่การงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น ในวิชาฮวงจุ้ย จึงให้ความสำคัญกับฮวงจุ้ยห้องนอน ตำแหน่งเตียงนอนและทิศทางหัวเตียง หรือทิศทางของศีรษะทางฮวงจุ้ย ที่เรียกว่าหัวนอนมากที่สุด ที่จะส่งผลให้กับบุคคลนั้นๆ ไม่น้อย ทั้งในด้านสุขภาพ ความคิดอารมณ์ และหน้าที่การงาน การเรียนรู้ต่างๆ ของชีวิต


ตำแหน่งฮวงจุ้ยและลักษณะของเตียงนอน ที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยนั้น ต้องมีความสงบนิ่ง และมั่นคงแข็งแรง อากาศภายในห้องนอนต้องถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับทึบหรือคับแคบ ปราศจากกลิ่นอับชื้น ที่สำคัญหัวเตียงหรือหัวนอนต้องอยู่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้เกิดพลังฮวงจุ้ยโชคลาภ มีสุขภาพที่ดี แก่ผู้ที่พักผ่อนหรือนอนนั้น


เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในทางฮวงจุ้ย ทิศหัวเตียงหรือหัวนอน
ไม่ควรหันไปยังทิศต่างๆ ดังต่อไปนี้



ท่านที่เกิด ปีชวด ห้ามหันหัวเตียงไปทาง ทิศใต้
" ปีฉลูและปีขาล " " ทิศตะวันตกเฉียงใต้
" ปีเถาะ " " ทิศตะวันตก
" ปีมะโรงและปีมะเส็ง " " ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
" ปีมะเมีย " " ทิศเหนือ
" ปีมะแมและปีวอก " " ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
" ปีระกา " " ทิศตะวันออก
" ปีจอและปีกุน " " ทิศตะวันออกเฉียงใต้

วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ความเชื่อในการจัดฮวงจุ้ยบ้าน


มีเพื่อนๆ สนใจในการจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยกันมากครับ ผมก็เลยหาบทความเรื่องนี้มาฝากกันครับ

เทคนิคพื้นเคลียร์พลังร้ายในบ้าน

*เปิดหน้าต่างในห้องนั้นให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
*จัดการขยะ ฝุ่นหรือของที่ไม่ใช้ออกให้หมด
*จุดเทียนหรือติดไฟในบริเวณนั้น
*จุดธูป หรือ กำยาน หรือน้ำมันหอม ในบริเวณมุมหรือห้องนั้นที่มีเหตุการณ์ร้ายมาก่อน
*ใช้เรื่องเสียง เสียงระฆัง
*ใช้การเคลื่อนไหว การเต้น โบกแขน สวดมนต์
*ทำทุกอย่างหรือบางอย่างที่กล่าวมาแล้ว ในขณะที่คุณ มั่นใจ เอาจริงเอาจัง
การจัดการทำความสะอาด ขจัดสิ่งที่ไม่ต้องการออกทิ้ง ทำให้พลังขี่ที่ดีได้สะดวก เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกและได้ผลอย่างยิ่ง อย่างทำอย่างหนึ่งอย่างใดเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำทั้งสองในเวลาเดียวกัน

พื้นฐานการจัดฮวงจุ้ยภายในบ้านหรือห้อง

เมื่อเราได้บ้านหรือห้องที่พอใจแล้ว(หมายถึงว่าบริเวณรอบนอกใช้ได้แล้ว)

พลังหยิงและพลังหยางของจัดการฮวงจุ้ยภายใน
มีห้องอยู่ห้องหนึ่งในตึกที่มีพลังหยิงมากกว่าห้องอื่นๆ และกลับกันมีห้องอยู่ห้องหนึ่งที่มีพลังหยางมากกว่าห้องอื่นในตึกเดียวกัน
หยิง หยาง

ห้องส้วม ห้องครัว
ห้องไว้เสื้อผ้า ห้องสังสรรค์
ห้องเก็บของ ห้องนั่งเล่น
ห้องนอน ห้องเรียน
ห้องน้ำ ห้องรับแขก
ตู้เก็บของ ห้องทำงาน
ห้องมืด ห้องแสงสว่าง

สีและแสงสว่างเป็นการเยียวยาแก้ไขอย่างหนึ่งของศาสตร์ฮวงจุ้ย สามารถเสริมหรือสลายของพลังหยิงและพลังหยางได้เมื่อเอาใช้ในการจัดฮวงจุ้ยภายในบ้านหรือห้อง ไม่ว่าในห้องนอน ห้องน้ำ ห้องส้วม ห้องเหล่านี้มีพลังหยิงมากกว่าพลังหยาง เพราะว่าห้องนอนเป็นที่สำหรับนอนเป็นพลังหยิง ห้องน้ำ ห้องส้วม เกี่ยวกับน้ำ หมายถึงของเสีย ห้องเหล่านี้ไม่มีพลังหยาง นอกจากว่ามีเหตุผลอื่นเกี่ยวกับการเยียวยาแก้ไข
ก่อนที่เราจะจัดการฮวงจุ้ย(แก้ไข เยียวยา) เราควรดูรอบๆ พร้อมทั้งจดบันทึกว่า จุดไหนมีพลังหยิงหรือพลังหยางเป็นอย่างไร แล้วพิจารณา
+ ห้องนั้นสีอะไร
+ เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในห้องกลมกลืนกับหรือไม่
+ การเดินไปมาในห้องสะดวกหรือเปล่า มีอะไรรกหรือเกะกะหรือเปล่า
+ มีเครื่องใช้ไฟฟ้ารวมหลอดไฟด้วยเท่าไร
+ ห้องนั้นทึบ หรือมืดหรือมีแสงสว่างเป็นอย่างไร
+ มีกลิ่นอับชื้นหรือกลิ่นสดชื่น
+ การให้สีมีความสมดุลหรือเปล่าว่ามืดหรือสว่างเท่าไร

บันทึกนี้จะให้ไอเดียว่าเราควรจะแก้ไขหรือส่งเสริมอย่างไร เพื่อพลังต่างๆจะมีความสมดุล มีความกลมกลืนกับเรา
ห้องที่มีพลังหยิงมากเช่น ห้องนอน ต้องจัดให้มีความสงบ ราบเรียบ ถ้าคุณใช้สีจ้า เช่น แดงหรือเหลือง มากเกินไป พลังสีจะทำคุณนอนไม่หลับหรือหลับๆตื่นๆ พลังของหยิง ควรจะอยู่ในที่ๆไม่พลุกพล่าน สงบ ส่วนพลังของของหยาง ต้องอยู่ในที่พลุกพล่าน มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา
ห้องที่มีพลังหยิงมากควรต้องอยู่ห่างประตูเข้าบ้าน ส่วนห้องที่มีพลังหยางมักให้อยูในส่วนหน้าบ้าน


ศรพิษภายในบ้านหรือห้อง
ศรพิษก็คือ คาน มุมของตู้ ระเบียงยาว สันหนังสือที่อยู่บนชั้น หรืออะไรก็ตามที่มีลักษณะ แหลม คม ที่จะชี้จุดแหลมไปที่เรา ในขณะที่เรา นอน ประทานอาหาร นั่งเล่น หรือทำงาน
การแก้ไขศรพิษทำได้ง่ายๆ โดยพรางเสียไม่ให้เห็น ไม่จำเป็นต้องแก้ไขสิ่งก่อสร้าง ถ้าคุณมีปัญหากับเรื่องศรพิษ ควรแก้ไขดังนี้
+ แขวนกระดิ่งลม
+ เลื่อนที่นั่งหรือที่นอนให้พ้นจากมุมแหลมนั้นๆ
+ เอาสิ่งอะไรมาบังจุดแหลมคมนั้นเสีย เช่น กระถางต้นไม้ รูปปั้น
+ เอาสปอร์ตไลท์ฉายจากล่างไปสู่คาน
+ ทำเพดานหลอกมาบังคานไว้
+ ทำประตูชั้นหนังสือ
+ แขวนขลุ่ยขนานกับคาน ให้ปากขลุ่ยแตะกำแพง พลังร้ายจะได้ขึ้นไปสู่เบื้องบน ไม่ลงสู่เบื้องล่าง

ชัยภูมิสนับสนุนภายในห้องหรือบ้าน
ถ้าเราต้องใช้เวลามากในห้องหรือที่ทำงาน เ ราควรจะต้องหาชัยภูมิภายในห้อง ฯลฯ ด้วย ที่เรานั่งต้องมีชัยภูมิเสมือน ด้านหลังเป็นภูเขาแล้วมีแขนสองแขนข้างซ้ายขวาคอยโอบไว้ ข้างหน้าควรมีพื้นที่ๆเก็บพลังบ้าง
ในห้องที่มีพลังหยางแรง เช่น ห้องทำงาน ห้องสังสรรค์ หรือห้องศึกษา ที่เรานั่งต้องมีอะไรสนับสนุน(ภูเขา ฯลฯ) อย่านั่งโดยไม่มีอะไรสนับสนุนข้างหลัง เช่น หน้าต่าง ประตู ข้างซ้ายควรมีอะไรที่เคลื่อนไหว ข้างขวาควรมีอะไรที่มั่นคง ไม่เคลื่อนไหว ข้างหน้าควรพื้นที่พอสมควร ข้างหน้าถ้ามีรูปน้ำตกก็ดี ข้างหลังห้ามมีน้ำ แต่ให้มีรูปภูเขาก็ดี
ในห้องที่มีพลังหยิงแรง เช่น ห้องนอน ส่วนที่สำคัญก็คือที่ตั้งเตียง ต้องอยู่ชิดกำแพง อย่าอยู่ใต้หน้าต่าง อย่าอยู่ใต้หิ้ง


+ ข้อที่ไม่ควรทำ
ไม่แนะนำให้นั่ง ทำงาน นอน ที่มุมห้อง เพราะที่มุมห้องเป็นที่ที่กำแพงสองอันมาชนกัน ไม่เหมาะ พลังชี่มักจะหยุดชะงักตรงมุมห้อง และจะเป็นผลร้าย ติดขัด สุขภาพจะเลวลง มุมห้องควรจะไว้ของที่เคลื่อนไหว เช่น โทรศัพท์ เครื่องแฟกซ์ โทรทัศน์ นาฬิกา วิทยุ เครื่องเสียง หลอดไฟ เพราะของเหล่านี้จะให้พลังชี่เคลื่อนไหว ไม่หยุดอยู่กับที่

กระจกเงา
เป็นเครื่องมือส่งเสริมหรือแก้ไขในทางฮวงจุ้ยที่ธรรมดาและไม่แพงและได้ผลดีตามความประสงค์ อิทธิพลของกระจกเงาก็คือการสะท้อนแสงทำให้ได้ประโยชน์อย่างมากในการสะท้อนผลดีผลร้าย ตามความต้องการ การแขวนกระจกเหนือโต๊ะอาหารจะทำให้เพิ่มคุณค่าให้อาหารและทำให้สมดุลกลมกลืนของคนในครอบครัว แต่อย่าลืมว่ากระจกเงาจะสะท้อนศรพิษ ห้องส้วม บันได หรืออย่างอื่นที่ไม่ประสงค์ ด้วย ดังควรระวัง เพราะจะสะท้อนเป็นสองเท่าด้วย
กระจกเงาใช้สะท้อนแสงไฟจากที่อื่นมาทำให้ที่มืดมีแสงได้ ทำให้บริเวณนั้นอยู่ดูใหญ่กว่าเดิม
เมื่อใช้กระจกเงา เราต้องอย่าลืมว่าเราต้องการให้สะท้อนสิ่งดีๆ และภาพสะท้อนต้องคงรูป ไม่แตกแยก การใช้กระจกเงา หรือเซรามิกมาต่อกัน ไม่แนะให้ใช้ เพราะการสะท้อนจะไม่สมบูรณ์ พลังชี่ก็จะสับสน เมื่อจะสะท้อนตัวเราควรใช้กระจกเงาที่ใหญ่พอ อย่าให้ หัว แขน ขา ขาด จะมีความรู้สึกที่ไม่ดี
ไม่แนะนำให้แขวนกระจกเงาในห้องนอนนะครับ พลังชี่จะวิ่งไปวี่งมาจนคุณนอนไม่หลับ

วันพุธที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2553

จัดสวนสวย..เสริมฮวงจุ้ยบ้าน


จากบทความก่อน ได้พูดถึงการจัดบ้านให้เย็นสบาย ซึ่งสวน และต้นไม้ในบ้าน ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้บ้านไม่ร้อน และมีทัศนียภาพที่สบายทั้งกายและใจ ของผู้อยู่อาศัย และในหลักการจัดสวนโดยหลักฮวงจุ้ย ก็จัดเป็นหลักที่นิยมใช้การอย่างแพร่หลาย ผมจึงได้นำหลักการจัดสวนเสริมฮวงจุ้ยให้บ้านของเรามาฝากกันครับ..

เรื่องของการจัดสวนภายในบ้าน ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับบ้านในยุคนี้ เพราะสวน ได้กลายเป็นจุดเด่น เป็นหน้าตาของบ้าน แถมยังเป็นการเสริมฮวงจุ้ยบ้าน ให้ดีได้อีกด้วยครับ.

ตำราฮวงจุ้ยมีพูดถึงหลักในการจัดสวนเอาไว้ หลากหลายรูปแบบด้วยกัน และเป็นเรื่อง ที่น่าสนใจไม่น้อย ปัจจุบันคนก็หันมานิยมจัดสวนแต่งบ้านกันอย่างจริงจัง บางบ้านหมด เงินไปกับเรื่องนี้มากโขทีเดียว ลองมาดูกันสิว่า ในทางฮวงจุ้ยพูด ถึงการจัดสวน เอาไว้อย่างไร

1. ตำแหน่งสวนควรอยู่ทางทิศตะวันออก

การกำหนดพื้นที่สำหรับจัดสวนภายในบริเวณบ้าน ถือเป็นสิ่งแรกที่จะต้องพิจารณา การที่ตำราระบุว่า สวนควรอยู่ทางทิศตะวันออก ก็ด้วยเหตุผลที่ว่าทิศตะวันออกเป็นทิศที่พระอาทิตย์ขึ้น แสงแดดในยามเช้า จะช่วยส่งเสริมต้นไม้ให้มีความงอกงามและเขียวสด เพราะเป็นแสงที่ไม่แรงจนเกินไป

2. สวนต้องครบองค์ประกอบของธาตุทั้ง 5 คือ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน และทอง

สวนที่ดีจะต้องประกอบไปด้วย ต้นไม้ (ธาตุไม้) น้ำตก น้ำพุ อ่างบัว บ่อปลา (ธาตุน้ำ) แสงแดดส่องถึง(ธาตุไฟ) มีดินที่สมบูรณ์(ธาตุดิน) และที่สำคัญจะต้องมีการตกแต่งสวนอย่างสวยงาม(ธาตุทอง) ไม่ใช่ปล่อยให้รกรุงรัง กลายเป็นป่ามากกว่าสวน

3. น้ำตกในสวนจะต้องหันหน้าน้ำตกเข้าบ้านเสมอ

การตกแต่งสวนโดยมีน้ำเข้ามาเกี่ยวข้องในทางฮวงจุ้ยบอกเอาไว้ว่าจะต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกรณีของน้ำตก ที่มีการไหลของน้ำไม่เหมือนอย่างอื่น "หน้าน้ำตกจะต้องหันเข้าบ้าน ห้ามหันออกนอกบ้าน" เพราะการหันออกนอกบ้านจะหมายถึงการเงินไหลออก เพราะน้ำแทนความหมายของโชคลาภการเงินนั่นเอง นี่เป็นกฎเกณฑ์ที่จะต้องจำไว้ในการแต่งสวน

4. บ่อน้ำ สระน้ำ รูปทรงต้องไม่ร้าย

การขุดบ่อน้ำหรือสระน้ำในสวนนั้นสิ่งที่จะต้อง คำนึงถึงก็จะเป็นเรื่องของรูปทรงของสระนั้น ในทาง ฮวงจุ้ย จะให้ใช้รูปทรงที่ไม่ทำร้ายคนในบ้าน เช่น รูปทรงที่เป็นเหลี่ยม รูปทรงขนมเปียกปูน สามเหลี่ยม เป็นต้น ควรใช้รูปทรงโค้งมน หรือวงกลม จะถือว่าดีที่สุด

5.ก้อนหิน วางผิดเป็นอุปสรรคใหญ่หลวง

หิน มาตกแต่งสวนต้องระวังให้มาก โดยเฉพาะก้อนหินใหญ่เพราะในทางฮวงจุ้ย "ก้อนหิน" จะหมายถึงอุปสรรค การเลือกก้อนหินในการแต่งสวนจะต้องเลือกก้อนที่มีลักษณะกลมมน ห้ามเป็นเหลี่ยมคม หรือมีมุมแหลมก้อนหินที่มีรูก็เป็นลักษณะต้องห้ามเช่นกัน ตำแหน่ง ในการวางส่วนใหญ่ จะวางบริเวณมุมบ้าน ห้ามวางไว้หน้าบ้านหรือบริเวณที่ตรงกับประตูบ้าน

6.บ้านเล็ก ห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่

บ้านที่มีขนาดเล็กมีพื้นที่จำกัดในการจัดสวน อย่างบ้านทาวน์เฮาส์ ห้ามเอาต้นไม้ใหญ่ มาปลูก เพราะจะก่อผลเสียมากกว่าผลดี สิ่งที่มองเห็นได้ชัด ก็คือ ต้นไม้ใหญ่จะทำลายฐานบ้าน และกิ่งก้านของต้นไม้ยังทำลายตัวบ้านอีกด้วย บ้านขนาดเล็กอย่างทาวน์เฮาส์ไม่ควรปลูก ต้นไม่ใหญ่ในบ้าน

7.หลีกเลี่ยงไม้หนามในการแต่งสวน

เรื่องต้นไม้ที่มีหนามแหลม ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่าเป็นข้อห้ามอยู่แล้ว เพราะหนามที่แหลมคมจะส่งผลกระทบ ต่อคนในบ้านได้ แต่บางคนอาจจะสงสัยว่าต้นไม้อย่าง เฟื่องฟ้า โป๊ยเซียน ที่คนนิยม นำมาปลูกในบ้านทำไมถึงไม่ห้าม ความจริงแล้วไม้หนามอย่างเฟื่องฟ้าหรือโป๊ยเซียน ก็เข้าข่ายเป็นต้นไม้ต้องห้ามเหมือนกัน เพราะมีหนามแหลม

เพียงแต่ว่า ชื่อของต้นไม้เป็นมงคลเท่านั้น และต้นเฟื่องฟ้าส่วนใหญ่ จะนิยมปลูก ริมรั้ว หรือ กำแพง ซึ่งกลับเป็นผลดีในแง่ของการป้องกันสิ่งไม่ดีเข้าบ้าน เหตุผลที่ตำราห้ามเอาไว้อย่างนั้น ก็เพราะหนามแหลมของต้นไม้ อาจจะเกี่ยวคนเดินผ่านไปมาในบ้านได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กๆ นอกจากนี้ เวลาต้นไม้เติบโตเป็น ต้นไม้ใหญ่ จะเคลื่อนย้าย หรือตัดกิ่งของต้นไม้ค่อนข้างจะยากที่จะไม่โดยหนามเกี่ยว

จัด "บ้าน" ให้ "คลายร้อน"


อากาศช่างร้อนเหลือเกินนะครับ ก็โลกเราร้อนขึ้นทุกวัน แต่เราก็สามารถจะลดความร้อน เย็นกาย เย็นใจในบ้านแสนรักของเราเองได้ง่ายๆ ครับ

วันนี้ผมนำวิธีแต่งบ้านง่ายๆ ให้อยู่สบายและคลายร้อน มาฝากเพื่อนๆ ครับ

โดยหลักง่ายๆ ในการจัดบ้านของคุณให้อยู่สบาย ไม่ร้อน และประหยัดพลังงาน เริ่มจากการปรับให้โล่ง โปร่งที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพราะศัตรูตัวฉกาจ คือ ความร้อน ความอับทึบ ที่ต้องกำจัดออกไป

จัดตกแต่งบ้านง่ายๆ ให้อยู่สบาย คลายร้อน ...


* สร้าง หรือ ตกแต่งบ้าน ด้วยวัสดุที่กันความร้อนและความชื้นได้ดี

* ติดกันสาด หรือแผงกันแดดให้บ้าน ช่วยป้องกันความร้อนและแสงแดดไม่ให้ส่องตรงเข้ามาในบ้าน และยังได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น

* ปรับห้องต่างๆ ให้มีลักษณะโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีการระบายความร้อนได้ดี

* ทาสีผนังห้อง หรือเลือกวัสดุพื้น กรุผนังสีอ่อน เพื่อช่วยลดการสะสมความร้อน และช่วยสะท้อนแสงให้ห้องสว่างขึ้น

* วางตำแหน่งมีผลต่อการทำให้บ้านเย็นสบาย ควรหาตำแหน่งที่ลดการปะทะกับแสงอาทิตย์ บ้านหันไปเหนือ-ใต้ จะไม่ร้อน

* ห้องนอนควรอยู่ทิศตะวันออก เพื่อหลีกเลี่ยงแดดช่วงบ่าย

* ห้องเก็บของ ห้องซักผ้า ห้องน้ำ ห้องครัว ที่จอดรถ ควรอยู่ทางทิศตะวันตก เพื่อเป็นส่วนกันความร้อนให้กับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของบ้าน

* ห้องพักผ่อน ห้องรับแขก ควรตั้งอยู่ทิศเหนือ เพราะจะถูกแสงแดดส่องในช่วงกลางวันน้อยกว่าทิศอื่นๆ อาจทำระเบียงและพุ่มไม้ เพื่อป้องกันแสงแดด

* เปิดช่องรับแสงธรรมชาติ แทนการติดตั้งโคมไฟ

* ไม่สร้างลานคอนกรีตรอบบ้าน เพราะเป็นตัวสะสม สะท้อน และคลายความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ควรทำสนามหญ้า ปลูกต้นไม้คลุมดิน นอกจากช่วยให้ร่มรื่น สบายตา ยังช่วยป้องกัน ฝุ่นจากดินแห้ง หรือเลือกใช้บล็อกสนามที่หญ้าสามารถขึ้นได้

* ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาแก่ตัวบ้าน ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ

วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2553

ฮวงจุ้ยห้องนอน เพื่อรักยืนยาว


บทความนี้ผมจัดให้สำหรับคนที่มีคู่รัก ไว้จัดห้องนอน เพื่อรักหวาน และยืนยาวครับ(ว่ากันตามความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยครับ)

การจัดห้องนอนมีผลต่อ "ความรัก" และ "การครองคู่" อยากให้รักแนบแน่น ชีวิตคู่ยืนนาน จัดฮวงจุ้ยห้องนอนให้ส่งเสริมกันดีกว่า

1. เตียงนอน ควรใช้เตียงที่ทำจากไม้ เพราะเตียงนอนที่ทำจากโลหะนั้น เป็นสื่อนำไฟฟ้า ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของคุณ และพยายามนำเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ ออกห่างจากเตียงของคุณ

2. แสงภายในห้อง ไม่ควรจะสว่างจ้าเกินไป (หยาง) หรือสลัวทึมเกินไป (หยิน) และอย่าลืมเรื่องเสียงรบกวนด้วย เพราะจะทำให้คุณและคู่รักหงุดหงิดได้

3. ถ้าห้องนอนของมีหน้าต่างกระจกใส ที่สามารถชมวิวสวยๆ นอกบ้านได้ ไม่ควรวางเตียงติดหรือใกล้กระจกมากเกินไป แม้ว่าคุณอยากจะนอนชมวิวภายนอกใจจะขาด เพราะพลังที่ผ่านเข้ามาจากภายนอก แม้จะไม่ทำให้คุณกับเขามีเรื่องมีราวถึงกับต้องเลิกรากัน แต่ก็จะส่งผลให้นอนไม่หลับหรือฝันร้ายอยู่เรื่อยๆ

4. ใต้เตียงนอน ไม่ควรเอาของที่ไม่ใช้แล้วไปเก็บไว้ โดยเฉพาะของที่แตกหักยับเยินห้ามเด็ดขาด! แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ไม่มีที่จะไว้ของแล้ว ก็ให้เลือกเก็บแต่ของใหม่ๆ ที่สำคัญต้องจัดให้เป็นระเบียบ ถ้าใต้เตียงรกมากๆ หรือเก็บของหักๆไว้ จะทำให้คุณหรือหวานใจมีสุขภาพไม่แข็งแรง แถมยังมีปากเสียงกันได้บ่อยๆ ด้วย

5. หน้าต่างห้องนอน ควรใช้ม่านบังตามากกว่ามู่ลี่กันแดดที่ดูแข็ง ไม่มีความพลิ้วไหวเหมือนกับผ้า เพราะห้องนี้ต้องการบรรยากาศที่นุ่มนวล ไม่ใช่ความเป็นงานเป็นการมากนัก เชื่อกันว่าถ้าใช้ม่านบังตาติด จะช่วยเสริมโชคเรื่องความรัก

6. หาแจกันดอกไม้ มาวางไว้ในห้องนอนสักหนึ่งอัน หรือจะเป็นกระถางต้นไม้ก็ได้ กระถางควรเป็นสีขาว ส่วนต้นไม้ให้เป็นสีแดงหรือสีชมพู จะช่วยเพิ่มพลังรักให้แข็งแรงมากขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการนำต้นไม้ใหญ่ไว้ในห้องนอน

7. หัวเตียงและผนังด้านหัวเตียง สามารถออกแบบให้สวยงามได้ ถ้าเตียงตั้งตรงกับประตูทางเข้าห้องนอน ให้แขวนคริสตัลไว้ระหว่างเตียงและพื้นที่ส่วนนั้น

8. อย่าหันหัวเตียงไปทางห้องน้ำเป็นอันขาด ดวงความรักที่กำลังรุ่งโรจน์อาจจะจะพุ่งลงเหวได้ง่าย เพราะจะต้องมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันไม่หยุดหย่อน

9. ไม่ควรหันปลายเท้าให้กับประตูห้องนอน เพราะเป็นสัญลักษณ์การนอนของคนตาย ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง หากปลายเตียงหันไปทางประตูห้องนอนพอดี จะมีเรื่องเดือดร้อนใจในครอบครัว สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง อาจมีคนเจ็บป่วยอยู่เรื่อยๆ ความอบอุ่นในบ้านจะลดน้อยลง ถ้าสุดจะเลี่ยง ก็ให้แก้ไขง่ายๆ ด้วยการติดกระจกบานเล็กๆไว้ที่ปลายเตียง เพื่อสะท้อนพลังอันเลวร้ายออกไป

10. พื้นห้องนอนควรเป็นสีพื้นเรียบๆ อาจมีลวดลายสบายตาได้บ้าง แต่สีพื้นสีเดียวไปเลยจะดีที่สุด หากปูพรม อย่าเลือกพรมที่มีลวดลายฉวัดเฉวียนน่าเวียนหัว เพราะจะส่งผลให้ความรักของคุณวุ่นวาย

11. อย่าใช้ผ้าห่มสีขาวเพราะหากนำมาคลุมร่าง จะเหมือนกับสัญลักษณ์ของคนตาย ผ้าปูที่นอนสีขาวแม้จะดูสะอาดสะอ้าน แต่ก็ไม่เหมาะกับห้องนอนนัก สีขาวโพลนจะส่งผลให้พลังความรักกระจัดกระจาย เลือกผ้าปูที่นอนที่มีสีจะดีกว่า

12. หาผ้าที่ทอด้วยด้ายสีทองหรือผ้าที่เป็นสีทองวางไว้บนเตียง เนื้อผ้าที่ส่องประกายแวววาว จะช่วยให้คุณสร้างบทรักบนเตียงได้ละเมียดละไมหวิวไหวยิ่งขึ้น

13. ถ้าช่วงไหนอารมณ์ร้อน อาจจะจากเรื่องงาน เรื่องเพื่อน จนพานโมโหคนรักบ่อยๆ ให้หาชามสวยๆ ใส่ก้อนหินหรือคริสตัลวางไว้ใต้เตียงนอน จะช่วยทำให้อารมณ์เย็นลง

14. อยากให้ความรักของคุณมั่นคง ให้หาหินควอตซ์ สีขาวใส ก้อนใหญ่พอประมาณ มาวางไว้ใต้เตียง

15. อย่าติดหลอดไฟที่ให้แสงส่องเป็นลำลงมาที่เตียงเป็นอันขาด เพราะความรักของคุณจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิง น่าปวดหัว ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้แขวนสร้อยลูกปัดที่ปลายเตียง เพื่อซึมซับพลังงานที่ขัดแย้ง

16. หากคุณกำลังกังวลว่าเขากำลังจะมีกิ๊กหน้าใส ให้เปลี่ยนม่านหน้าประตูห้องนอน เป็นม่านที่ร้อยด้วยลูกปัด เชื่อกันว่าลูกปัดจะช่วยเก็บพลังงานรักให้อยู่เป็นที่เป็นทางไม่วอกแวกไปที่อื่น

17. หากเตียงนอนอยู่กึ่งกลางระหว่างประตูสองด้าน เช่น ประตูเข้าห้องและประตูห้องน้ำ ให้ย้ายตำแหน่งของเตียง หรือไม่ก็หาฉากสวยๆ มากั้น เพื่อให้พลังงานความรักนั้นรวมกันเป็นหนึ่ง

18. ควรใช้เตียงที่ทำจากไม้ เพราะเตียงนอนที่ทำจากโลหะนั้น เป็นสื่อนำไฟฟ้า ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของคุณ และพยายามนำเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ ออกห่างจากเตียงของคุณ

วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553

แต่งห้องน้ำ(น้องโถ)สวยๆ

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมได้แว๊บไปเห็นรูปของการแต่งห้องน้ำ ในส่วนสุขภัณฑ์หรือโถสุขภัณฑ์ ที่สวย น่ารัก และน่าจะเป็นไอเดียเก๋ๆ ในการเสริมแต่งความสวยงามในห้องที่แสนสุข (สุขา)ของบ้านทุกคนได้นะครับ

1.แต่งสุขภัณฑ์แนวชมพูหวานแว๋ว สวยๆ น่ารัก แนวของสาวๆ เลยครับ


2.แต่งสุขภัณฑ์โทนสีขาวดำ ให้ความรู้สึกแนวหนุ่มๆ ที่ชอบความชัด หนักแน่น ของสีขาวดำ


3.แต่งสุขภัณฑ์โทนสีเขียว สำหรับคุณๆ ที่ชอบแนวสีเขียวธรรมชาติ ต้นไม้ ใบไม้ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ


4.แต่งสุขภัณฑ์แนวสีเหลืองส้ม เบท แกมชมพู เข้ากันได้ดี ให้ความรู้สึกสดใส อ่อนโยน


5.แต่งสุขภัณฑ์แนวเอิร์ทโทน สีน้ำตาล ให้ความรู้สึกสงบ ราบเรียบ แต่ผ่อนคลาย


6.แต่งสุขภัณฑ์แนวสีเบท สีเหลืองอ่อน ให้ความรู้สึกนุ่มนวล ลวดลายของดอกไม้สีเขียว ให้ความรู้สึกอ่อนโยนมากขึ้น


7.แต่งสุขภัณฑ์แนวสีฟ้า ลายสลับตารางหมากรุก ให้ความรู้สึกสนุก และสวยงามสะดุดตา

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553

สีของบ้าน ตามโฉลกและเลขวันเกิด


สีที่ใช้ทาบ้านนั้น นอกจากจะทำให้บ้านสวยงามและโดดเด่นแล้วตามหลักทางเคหะศาสตร์โดยทั่วไปยังได้กล่าวเอาไว้ว่า หากเป็นสีที่ถูกโฉลกกับวันเกิดของเจ้าของบ้านด้วยก็จะยิ่งเสริมความเป็นสิริมงคลและนำโชคลาภทรัพย์สินมากมายมาสู่ตัวท่านและครอบครัวดีนักแลทำนองว่ายิ่งอยู่ก็ยิ่งร่ำรวย มั่งมีศรีสุข ตามหลักเคหะศาสตร์ก็มีแนวคิดในการคำนวณเลขที่วันเกิดเพื่อการเลือกสีที่ถูกโฉลกไว้อย่างน่าสนใจดังนี้ครับ
หากวันเกิดเป็นเลข 1 หลัก ในที่นี้คือ 1, 2, 3, 4, ...9 ก็สามารถใช้เลขนั้นเพื่อดูสีที่ถูกโฉลกกับบ้านท่านได้เลยครับ ส่วนท่านใดที่มีวันเกิดเป็นเลข 2 หลัก คือมีทั้งหลักหน่วยและหลักสิบ เช่น 10, 11, 12,..... ก็ให้นำเอาเลขในหลักหน่วยและหลักสิบมารวมกัน เช่น แฟนๆ คนรักบ้านท่านใดที่เกิดวันที่ 12 ก็ให้เอา เลข 1 กับ 2 มารวมกัน (1+2 = 3) ผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าเป็นเลขวันเกิดที่ใช้ในการดูสีที่ถูกโฉลก และถ้าผลลัพธ์ยังออกมาเป็นเลขสองหลักก็ให้ทำเหมือนเดิมจนกว่าจะได้เลขแค่หลักเดียวครับ ไม่ว่าแฟนๆ คนรักบ้านจะเกิดปีใด พ.ศ.ใด ก็ให้ใช้หลักการเดียวกันทั้งหมด จากนั้นมาดูกันครับว่า เลขวันเกิดของท่านนั้นถูกโฉลกกับสีอะไรบ้าง
เลข 1 สีที่ถูกโฉลกกับท่านคือ สีน้ำตาล เหลือง ทองสัมฤทธิ์และทองคำ
เลข 2 สีที่ถูกโฉลกกับท่านคือ สีเขียวใบไม้ ขาวบริสุทธิ์และน้ำนมข้น
เลข 3 สีที่ถูกโฉลกกับท่านคือ สีม่วงไวโอเลต สีเม็ดมะปราง น้ำเงิน และสีแดงกุหลาบ
เลข 4 สีที่ถูกโฉลกกับท่านคือ สีเทา เขียวใบไม้ และสีส้มแก่หรือสีส้มอ่อน
เลข 5 สีที่ถูกโฉลกกับท่านคือ สีขาว สีเทา และสีที่ทำให้เกิดความแวววาวระยิบระยับ
เลข 6 สีที่ถูกโฉลกกับท่านคือ สีชมพู และสีน้ำเงิน
เลข 7 สีที่ถูกโฉลกกับท่านคือ สีขาว สีเหลืองและสีเขียวใบไม้
เลข 8 สีที่ถูกโฉลกกับท่านคือ สีม่วง สีน้ำเงินและสีเทา
สุดท้าย คือ เลข 9 ท่านใดที่เลขวันเกิดตรงกับ เลข 9 ตำราทางหลักเคหะศาสตร์ว่าไว้ว่า สีที่ถูกโฉลกกับท่านคือ สีชมพู สีแดง และสีแดงเลือดนกครับ
สีที่ถูกโฉลกกับเลขวันเกิดไม่ได้ใช้เฉพาะกับตัวบ้านเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึง รั้ว ประตู หน้าต่าง ห้องรับแขก ห้องนอน อุปกรณ์ตกแต่งบ้านต่าง ๆ ตลอดจนเครื่องไม้เครื่องมือ เสื้อผ้า อาภรณ์ ที่ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันซึ่งหากสามารถเลือกเป็นสีต่าง ๆ ตามที่กล่าวไว้จะช่วยเสริมความเป็นศิริมงคลและให้อยู่เย็นเป็นสุข รวมทั้งเสริมสร้างความมั่งมีศรีสุข..

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

การแต่งเติมสีในการจัดบรรยากาศบ้านให้น่าอยู่



เขียว เหลือง แดง ส้ม 4 เฉดสีมาแรง แต่งเติมบรรยากาศบ้านให้น่าอยู่

สีนอกจากจะมีส่วนสำคัญทำให้บ้าน ดูสดใสสวยงามเจริญตาเจริญใจ แก่ผู้ได้พบเห็นแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างบรรยากาศให้บ้านน่าอยู่มากขึ้น ขณะเดียวกันสีสันที่มีหลากหลายยังให้อารมณ์และความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน

-สวยด้วยสีสดใส ซาบซ่าน

สำหรับคนรักบ้าน ที่รักสวย รักงาม และ ยังรักสนุก มาสร้างเสน่ห์สดชื่น คลายร้อนด้วยเฉดสีสดใส จี๊ดจ๊าดแทนผนังห้องที่ขาวซีด ดูจืดชืด

ลองดูตัวอย่างการเติมแต่งสีสัน ห้องนั่งเล่นห้องเดียว แต่แตกต่างด้วยหลากสีสดที่เลือกใช้ เขียว เหลือง แดง ส้ม 4 เฉดสีมาแรง พร้อมของแต่งเติมหลากแบบหลายสีสดสวยพอเป็น ไอเดีย เพื่อแปรเปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้สดใสน่าอยู่

-เหลืองสดใส โดนใจ


เหลืองจัดจ้าน ดูแจ่มแจ๋ว สวยจับใจ อบอุ่น สดใส ผสานสีเขียวโทนเย็นให้ข้าวของเครื่องใช้ สร้างบรรยากาศบ้านสดชื่น แจ่มใส คลายร้อน

-สีเขียว คลายร้อน


สำหรับหน้าร้อนอาจนำสีสันมาช่วยคลายร้อนโดยใช้สีเขียวสดชื่น ผสมกลมกลืนไปกับพลังสีฟ้าสดใส ช่วยสร้างบรรยากาศในบ้านให้ชื่นฉ่ำ เย็นใจ มองไปทางไหนก็สดใส สบายใจ สะอาดตา

-โทนสีมาแรง แดงและส้ม


เพริศพริ้งด้วยผนังสีแดงเฉิดฉาย เติมแต้มด้วยองค์ประกอบส้มสดใส ดูโดดเด่นกว่าใคร ต้องกล้าที่จะเลือกใช้คู่สีที่ให้ทั้งความสวยหรู และดูเก๋ เปรี้ยวในที

แถมท้ายด้วยความรู้เรื่องการเลือกใช้สีแต่ละโทนสี

-สีโทนเย็น cool tone


ฟ้า เขียว ช่วยให้รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายสบายๆ ควรใช้กับห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องพระ หรือห้องทำงาน ห้องรับแขก หรือห้องทำกิจกรรมต่างๆ

-สีโทนร้อน warm tone


แดง ส้ม เหลือง ช่วยกระตุ้นให้เกิดความกระฉับกระเฉง ร่าเริง แจ่มใส warm tone เหมาะกับห้องรับประทานอาหาร

ลองใช้ไอเดียการเล่นสีสันของห้องต่างๆ แล้วบรรยากาศของบ้านของเราก็จะมีสไตล์ และให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป และน่าอยู่ยิ่งขึ้นครับ..^-^