วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เปลี่ยนดวงชะตาให้ดีขึ้น ด้วยฮวงจุ้ยประตูบ้าน

เรื่องนี้น่าสนใจครับ.. สำหรับฮวงจุ้ยประตูบ้านนำโชค การแต่งหน้าบ้านประตูบ้านเรียกโชคลาภ เปลี่ยนดวงชะตา นำมาฝากกันครับ..

          ว่ากันว่าประตูบ้านของเรานี่แหละ ที่เป็นตัวรับพลังงานเข้ามาในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโชคดีหรือโชคร้ายก็ตาม ดังนั้นการจัดประตูหน้าบ้านตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับบ้านของตัวเองจึงถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว และเพื่อให้เพื่อน ๆ มีโอกาสเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานมากขึ้น รวมทั้งมีความสุขร่ำรวยเงินทอง วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมเทคนิคการตกแต่งประตูตามหลักฮวงจุ้ยประตูบ้านมาฝากกันแล้ว ซึ่งแต่ละอันนั้นไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่ใช้เวลาสั้น ๆ ก็เพียงพอแล้ว ไม่เชื่อก็ลองไปดูกันเลย


1. ทาสีประตูเพื่อโชคลาภ

          ก่อนอื่นเพื่อให้พลังงานหมุนเวียนถ่ายเทได้สะดวก ก็ต้องทำประตูบ้านนั้นให้เหมาะเสียก่อน โดยเคลียร์ของรกเกะกะ เช่น กล่องพัสดุที่ตั้งตามพื้น หรือรองเท้า ออกไปให้หมด อย่าได้กองไว้รกหูรกตาเชียว นอกจากนี้ก็ต้องเลือกใช้สีจำพวกน้ำตาลแดงหรือเขียวเป็นสีของประตูด้วย โดยสีแดงนั้นหมายถึงความสมบูรณ์พูนสุข ในขณะที่สีเขียวช่วยเรื่องการเงิน ส่วนใครที่ไม่ได้มีประตูบ้านเป็นสีที่ว่า ก็ได้เวลาหยิบแปรงทาสีขึ้นมาโชว์ฝีมือกันแล้วล่ะ


2. โมบายสีสดใส
          การเอาโมบายลวดลายน่ารักสีสันสดใสไปติดประดับเอาไว้บริเวณหน้าบ้าน นอกจากจะช่วยให้ดูมีชีวิตชีวาน่ามองขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณและครอบครัว รวมไปถึงคนรอบข้างแน่นแฟ้นขึ้นอีกด้วย ซึ่งเทคนิคนี้จะได้ผลมากขึ้นอีก หากปูพรมหน้าบ้านควบคู่ไว้ด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั้นการติดไฟหน้าบ้านเอาไว้ด้วย ก็จะยิ่งช่วยเสริมให้สีสันของโมบายดูสวยขึ้น แถมยังเป็นตัวเสริมเรื่องโอกาสดี ๆ ในชีวิตด้วยจ้า


3. กำจัดต้นไม้ที่ตายแล้วออกให้หมด

          แม้ว่าการปลูกไม้ประดับไว้บริเวณหน้าบ้าน โดยเฉพาะพวกมาลัยดอกไม้ที่คล้องอยู่ตรงประตู จะเป็นตัวช่วยเสริมโชคดีได้ แต่ในทางตรงกันข้าม หากไม้ประดับเหล่านั้นยังคงถูกแขวนหรือตั้งเอาไว้ทั้งที่แห้งเหี่ยวตายไปแล้ว ก็จะทำให้คุณดวงตก ใครที่คิดจะปลูกจึงต้องคอยหมั่นดูแลให้ดี รวมทั้งขยันเปลี่ยนไม้ประดับให้สดใหม่อยู่เสมอ


4. ประตูหลังและประตูหน้าไม่ควรอยู่ตรงกัน

          พลังชี่มักจะเข้ามาในบ้านผ่านประตูหน้า และออกไปทางประตูหลัง ดังนั้นหากประตูทั้งสองอยู่ตรงกัน พลังงานดังกล่าวก็จะถูกถ่ายเทออกไปอย่างรวดเร็ว เราจึงควรทำประตูทั้งสองบานให้อยู่คนละทิศทางเอาไว้ อย่างไรก็ดี หากบ้านของคุณถูกสร้างขึ้นมาแบบนั้นแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปรีโนเวทใหม่ให้ยุ่งยาก แต่แก้ด้วยวิธีเอาเฟอร์นิเจอร์ไปกั้นกลางไว้ด้วยการจัดมุมนั่งเล่นบริเวณนั้นแทนก็ช่วยได้เหมือนกันค่ะ

                                            5. ประดับด้วยรูปปั้น
          ว่ากันว่าทางเดินเข้าบ้านนั้นก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญด้วยเหมือนกัน เพื่อเป็นตัวเรียกโชคลาภเข้ามาในบ้าน ซึ่งการเอารูปปั้นที่ประณีตงดงามไปตกแต่งบริเวณทางเดิน หรือข้างประตูบ้านจะได้ช่วยนำสิ่งดี ๆ เข้ามาหาผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะถ้าเป็นรูปปั้นสิ่งมีชีวิต เช่น สัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะสิงโต หรือมังกร ตามความเชื่อของคนจีน ก็จะเป็นตัวช่วยปกป้องผู้คนในบ้านให้ปราศจากอันตรายอีกด้วย

                                             6. ทางเดินเข้าบ้านต้องโค้ง

          เพื่อเสริมสร้างโชคลาภที่ดีตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ทางเดินลัดเลาะสนามหญ้าเข้าสู่ตัวบ้านของคุณ ควรเป็นแบบโค้งมนเท่านั้น ห้ามเป็นแนวตรงเด็ดขาด โดยวิธีนี้จะช่วยให้พลังงานที่ดีเข้าสู่ตัวบ้านได้ รวมทั้งสกัดกั้นสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาในบ้านในเวลาเดียวกัน มันจึงสามารถใช้เสริมโชคลาภให้กับเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี

          เพื่อให้โอกาสดี ๆ เข้ามาในชีวิตมากขึ้น อย่าลืมลองไปจัดแต่งประตูของคุณตามฮวงจุ้ยประตูบ้านกันดูนะคะ เพราะของแบบนี้แม้จะเป็นความเชื่อที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่ก็ได้ทำให้ชีวิตของหลาย ๆ คนดีขึ้นมาแล้วเหมือนกัน ไม่แน่ว่า..อาจทำให้โชคดีเข้ามาหาตัวอย่างคาดไม่ถึงเลยก็ได้

วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แต่งห้องนอนให้สบาย สะอาดรับหน้าฝน - บ้านสวยด้วยมือคุณ


เป็นธรรมดาที่เมื่อหน้าฝนมาเยือน หลายท่านจะไม่อยากลุกจากที่นอน ด้วยบรรยากาศที่แสนสบายชวนพักผ่อน การตกแต่งห้องนอนให้สวยน่าอยู่ตอบรับความสบายผ่อนคลายได้ดี จึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้าม ยิ่งใครที่เคยคิดว่าห้องนอนไม่สำคัญ เป็นเพียงพื้นที่ส่วนตัวไม่มีใครเห็น ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่แล้ว เพราะผลวิจัยด้านสุขภาพบอกว่า ร่างกายและจิตใจของคนเรานั้นจะดีได้ต้องเริ่มจากการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในพื้นที่ที่ถูกสุขลักษณะ

การตกแต่งห้องนอน เบื้องต้นควรเริ่มจากการจัดบรรยากาศให้อยู่สบาย ผ่อนคลายและอบอุ่น โดยควรเลือกสไตล์ที่ชอบมาตกแต่ง เพื่อสร้างความสุขทั้งต่อร่างกายและความรู้สึก ซึ่งรูปแบบต่างๆ ที่เลือกนั้น ต้องนำมาสร้างสรรค์ภายใต้ภาพรวมที่ดูโปร่งโล่ง สะอาดตา และง่ายต่อการดูแลรักษา

สร้างความลงตัวให้ห้องนอน ด้วยการจัดส่วนใช้งานอย่างเหมาะสม เพราะห้องนอนนอกจากจะทำหน้าที่เป็นที่นอนแล้ว หลายคนยังใช้ห้องนอนเป็นมุมนั่งเล่น มุมอ่านหนังสือและแต่งตัวด้วย การจัดฟังก์ชั่นภายในให้เอื้อต่อการใช้สอยสามารถทำได้จากการแบ่งพื้นที่ด้วยฉากชั้นแบบโปร่งๆ หรือฉากกั้นกระจกที่ไม่ทึบตัน ยิ่งถ้าห้องมีขนาดเล็กมาก ก็ควรอาศัยเฟอร์นิเจอร์ และพื้นที่ว่างมาแบ่งพื้นที่อย่างคร่าวๆ แทนการกั้นผนังทึบ

ห้องนอนไม่ควรมีข้าวของรกรุงรัง เพราะจะนำมาซึ่งสิ่งไม่พึงประสงค์ เช่น ฝุ่น ผง ขยะมูลฝอยและแมลงต่างๆ จึงควรทำความสะอาดอยู่เสมอ และจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ อาศัยเฟอร์นิเจอร์มาช่วยในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป ผสมใช้ได้ทั้งแบบลอยตัวที่ง่ายต่อการปรับเปลี่ยน และแบบบิวท์-อิน (Built-in) ที่สามารถวางผังให้ชิดติดผนัง เช่น ชั้นวางหนังสือ ตู้ลอยแบบบานเลื่อนที่ดูเรียบร้อยไม่เกะกะพื้นที่

จัดวางเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งๆ ไม่กีดขวางทางเดิน หรือช่องเปิดประตู-หน้าต่าง เพื่อปล่อยให้แสงและลมพัดผ่าน ช่วยถ่ายเทอากาศได้ดี โดยควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิดมุม และเว้นให้มีที่ว่างมากพอต่อการสัญจรหรือทำกิจกรรม พร้อมกับควรใช้โทนสีอ่อนที่ดูสะอาดสบายตามาเป็นโทนสีหลัก เช่นเดียวกับรายละเอียดของวอลล์เปเปอร์ ม่านและผ้าบุผ้าคลุมที่นอน ควรมีลวดลายไม่หวือหวาเกินไป เพื่อช่วยให้ดูสงบน่าพักผ่อน

จัดแสงไฟให้สัมพันธ์กับการใช้งาน โดยพื้นที่ภายในห้องนอนอาจมีทั้งมุมที่ต้องใช้แสงสว่างมากและน้อยแตกต่างกัน เช่น มุมอ่านหนังสือ มุมแต่งตัว ที่ใช้แสงไฟสีขาวจะช่วยกระจายแสงได้ดี หรืออาจเพิ่มเติมด้วยโคมไฟตั้งพื้นและตั้งโต๊ะก็จะช่วยส่องสว่างมากขึ้น ในบริเวณส่วนนอนแนะนำให้เลือกใช้แสงไฟสีที่นวลตาจะชวนให้สบายตาและหลับได้ง่ายกว่า

หลีกเลี่ยงเสียงดังที่จะส่งผลต่อการนอนของคุณ ซึ่งถ้าทำได้ก็ควรเริ่มจากการเลือกตำแหน่งห้องนอน ไม่ให้อยู่ด้านที่ติดถนน หรือชุมชน นอกจากนั้นยังเสริมด้วยการใช้วัสดุที่ดูดซับเสียงได้ ก็จะช่วยให้นอนหลับสนิทมากขึ้น

การตกแต่งห้องนอนดีแค่ไหน ร่างกายและอารมณ์ของคุณก็ดีเช่นนั้น ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ จากแนวทางข้างต้นนี้ รวมถึงการเติมเต็มด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น หาของประดับตกแต่งมาจัดวาง ทั้งภาพเขียน กรอบรูป แจกันดอกไม้ นาฬิกาปลุก และโต๊ะข้างเตียงที่มีลิ้นชักเก็บของให้จัดเก็บสิ่งที่จำเป็นได้ ก็ช่วยให้สะดวกสบายมากขึ้น เพียงเท่านี้คุณก็ใช้เวลาในห้องนอนได้อย่างเต็มที่ในหน้าฝนแล้ว

ปรับแต่งฮวงจุ้ยรับหน้าฝน


ฝนสร้างความชุ่มฉ่ำก็จริงอยู่ แต่บางครั้งก็เป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิต เพราะฉะนั้นมาเรียนรู้วิธีเปลี่ยนฤดูฝนให้เป็นช่วงแห่งความสุขดีกว่า ตามหลักฮวงจุ้ยจีน 'โอโตริ'


1.เก็บบ้าน
หน้าต่างผนังแตกร้าว หลังคารั่ว ข้าวของระเกะระกะ ถ้าไม่ซ่อมจะทำให้พลังงานชี่หมุนเวียนไม่สะดวก

2.ดูแลประตู
ความชื้นที่มากับฝน มักทำให้พื้นไม้หรือประตูไม้ขยาย จึงต้องหมั่นหยอดน้ำมันให้ประตูเปิดปิดง่าย การออกแรงผลักประตูและปล่อยให้มีเสียงบานพับดังจะขับไล่ชี่ที่ดีในบ้านออกไปและทำให้ชี่ในร่างกายแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย


3.สีแดงเสริมพลัง
เปลี่ยนรูปหรือของแต่งบ้านเป็นสีแดง เพราะสีแดงเป็นสีให้พลังหยินหยาง ช่วยกระตุ้นให้เกิดความสดชื่น มีชีวิตชีวา

4.ใส่ใจน้ำในบ้าน
ศาสตร์ฮวงจุ้ยถือว่าน้ำที่ไม่เคลื่อนไหวหรือกลิ่นเหม็นเป็น 'น้ำตาย' และเรียกบ่อน้ำใช้ที่ขาดการดูแลว่า 'ที่เก็บกักความเศร้าและความขมขื่น' วิธีแก้คือปลูกต้นไม้เหนือบ่อน้ำ เพื่อชักนำชี่ที่เลวร้ายขึ้นมาเปลี่ยนให้เป็นชี่ที่ดีกว่าเดิม

5.ทำราวตากผ้าหนีฝน
ติดตั้งราวตากผ้าแบบติดผนังพับเก็บง่าย หรือทำเองโดยใช้ไม้อัดทำเป็นกรอบเหมือนกรอบรูป แล้วใช้เชือกทำเป็นราว ไม้และเชือกเป็นตัวแทนของธาตุไม้ ช่วยเสริมพลังแสงอาทิตย์หรือธาตุไฟทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น

6.ปลูกต้นไม้ไล่แมลง
ปลูกต้นเพียริส (Pieris) หรือต้นโคมไฟทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือหรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน กลิ่นของมันช่วยขับไล่แมลง ยุง มด และแมลงเม่าได้ดีนัก

7.ขับขี่ปลอดภัย
ผูกเหรียญจีนโบราณสีทอง 3 เหรียญ ประทัดจีน หรือคริสตัลไว้ที่กระจกมองหลังของรถ เพื่อเป็นเคล็ดในการเดินทางไปสู่ความมั่งคั่ง โชคลาภ และสุขภาพที่ดี

8.ทำตนให้เหมือนน้ำ 
แม้จะปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้ถูกต้องแล้ว แต่ศาสตร์ฮวงจุ้ยบอกว่า ถ้าไม่มีคุณธรรมก็ยากที่จะเรียกโชคลาภหรือความสำเร็จใดๆ ได้ หน้าฝนนี้ควรทำตัวเสมือนสายน้ำ แสดงน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นให้มากที่สุด เล่าจื๊อ บอกว่า 'น้ำคือสิ่งที่มีคุณค่าสูงสุด ความดีของน้ำคือการทำประโยชน์แก่หมื่นสรรพสัตว์'

ลองทำดู ฝนนี้หัวใจอาจชุ่มฉ่ำกว่าปีที่ผ่านมาก็ได้

เตรียมบ้านรับหน้าฝนอย่างไรให้ปลอดภัย

เตรียมบ้านรับหน้าฝนอย่างไรให้ปลอดภัย

วิธีดูแลบ้าน หน้าฝน ให้ปลอดภัย




         เริ่มชุ่มฉ่ำกับสายฝนกันแล้ว เป็นสัญญาณว่าถึงคราวที่ฤดูฝนได้เวียนกลับมาอีกครั้ง แต่การที่ฝนตกเช้า ตกเย็น ตกไม่เป็นเวลาอย่างนี้ ก็อาจจะกระทบกระเทือนกับบ้านของเราทั้งเปียกแฉะเลอะเทอะ อีกทั้งยังอาจเกิดความเสียหายกับบ้านได้ด้วย ดังนั้นเรามาเตรียมบ้านให้พร้อมรับหน้าฝนกันด้วยวิธีต่อไปนี้กันดีกว่าค่ะ บ้านเราจะได้ผ่านหน้าฝนนี้ไปได้อย่างปลอดภัย


 เคลียร์ท่อและรางน้ำฝนให้โล่ง

         ในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูหนาว สายลมอาจจะพัดพาใบไม้ให้ร่วงหล่นตกค้างในท่อน้ำ รางน้ำฝน และหลังคาบ้าน จนอาจจะกลายเป็นสิ่งกีดขวางทางเดินของน้ำ ให้ไหลไม่สะดวก เกิดการเอ่อล้นเสี่ยงน้ำท่วมบ้านได้ ยิ่งถ้ามีสิ่งกีดขวางบนหลังคาบ้านมาก ๆ น้ำฝนที่ตกลงมาก็จะไม่ไหลไปตามร่องกระเบื้องมุงหลังคา แต่จะไหลมาด้านข้าง รดขอบหน้าต่างและผนังให้เสียหายแทน ดังนั้นเราควรจะเคลียร์ท่อน้ำและรางน้ำฝนให้โล่งเสียก่อน ด้วยการปัดกวาดเศษใบไม้และสิ่งอุดตันออกจากท่อให้หมด จากนั้นหากไม่มีอุปกรณ์หรือไม่รู้วิธีลอกท่อที่ถูกต้อง แนะนำให้ปรึกษาช่างผู้ชำนาญการ ให้เขามาลอกท่อให้เลยดีกว่า

 อุดทุกรอยรั่ว

         ตรวจเช็กให้แน่ใจว่าหลังคา ฝ้า และเพดาน ไม่มีรอยรั่ว แตกร้าวหรือมีช่องให้น้ำผ่านเข้ามาได้ ควรซีลขอบหน้าต่างให้เรียบร้อย และจะดีมากถ้าใช้ยางซีลชนิดที่กันน้ำได้ หากจุดใดเกิดการชำรุดก็ต้องจัดการซ่อมแซมโดยทันที เพื่อในวันที่มีพายุฝนกระหน่ำ จะได้ไม่ต้องกังวลว่าน้ำฝนจะเล็ดลอดเข้ามาในบ้านให้ต้องเหนื่อยเช็ดถู และเฟอร์นิเจอร์จะได้ไม่โดนน้ำฝนทำลายให้เสียหายด้วย นอกจากนี้อย่าลืมหาเกราะป้องกันน้ำให้คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศด้วยนะคะ อาจจะต้องลงทุนกันมากหน่อยแต่รับรองว่าคุ้มไปตลอดทั้งปีแน่ ๆ จ้า

 ใส่ใจสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ

         อย่าลืมใส่ใจสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น สระว่ายน้ำ สนามหญ้าหน้าบ้าน ที่ควรต้องลดระดับน้ำในสระ และรดน้ำต้นไม้ให้น้อยลง เผื่อไว้สำหรับรองรับน้ำฝนที่จะตกลงมาด้วย อีกทั้งถ้าหน้าต่างบ้านเป็นหน้าต่างไม้ ก็ควรต้องลงทุนทาสีชนิดกันน้ำได้ แทนสีเก่า เพื่อให้ช่วยป้องกันน้ำฝนซึมลงในเนื้อไม้ จนทำให้หน้าต่างบวมเสียรูป รายละเอียดยิบย่อยแบบนี้แต่ละบ้านก็มีไม่เหมือนกัน ดังนั้นช่วงที่ใกล้จะเข้าหน้าฝนอย่างนี้ แนะนำให้คุณสำรวจดูให้ทั่วบ้าน และจดรายการที่ต้องเตรียมป้องกันน้ำฝนกันให้ดีด้วย

 ป้องกันลมพัดทำลายข้าวของ

         หน้าฝนมักจะมาพร้อมกับพายุ และลมแรง ๆ ซึ่งอาจจะทำลายสวนสวย ร่มกลางสนาม ถังขยะ หรือข้าวของที่สามารถปลิว ร่วงหลุด หรือหักงอได้ง่าย ดังนั้นคงดีกว่าถ้าเราจะเก็บสิ่งของเหล่านี้ในที่ปลอดภัย เช่น ในโรงรถ หรือห้องเก็บของไว้ก่อน เพื่อป้องกันลมแรง ๆ มาพัดข้าวของให้ปลิวกระจัดกระจาย เสียหายในภายหลัง หากเป็นของที่ไม่สามารถเก็บเข้าที่ได้ ลองหาอะไรยึดไว้ให้แข็งแรงก็จะปลอดภัยขึ้นนะ


 อย่าลืมเรื่องไฟฟ้า
        
         สำหรับบ้านไหนที่ต่อเติมบ้านไปเมื่อช่วงฤดูร้อนและยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อย หรือมีการตั้งโต๊ะจัดปาร์ตี้ที่สนามหน้าบ้าน ก็ควรต้องตรวจเช็กให้ดี ว่ามีสายไฟ หรือการต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นค้างไว้หรือเปล่า เพราะถ้าหากลืมเก็บเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสายไฟเหล่านี้ อาจเกิดอันตราย เช่น ไฟช็อต ไฟรั่ว ในขณะที่ฝนตกได้นะจ๊ะ

 ตัดกิ่งไม้ให้เรียบร้อย

         หน้าฝนที่ลมแรง ๆ อย่างนี้หากกิ่งไม้หรือต้นไม้เกิดโค่นทับหลังคาบ้านก็คงไม่ดีแน่ ฉะนั้นในวันที่ฟ้าปลอดโปร่ง เราก็จัดการตัดแต่งกิ่งไม้ที่ใกล้จะหัก หรือกิ่งที่ค่อนข้างใหญ่ลงก่อนดีกว่า และอย่าลืมเคลื่อนย้ายต้นไม้ดอกไม้กระถางเล็ก ๆ ที่เสี่ยงจะปลิวไปกับสายลมไว้ในที่ปลอดภัยด้วยนะคะ

 เตรียมไฟฉายให้พร้อม

         ในวันที่มีพายุลูกใหญ่พัดถล่ม ไฟก็อาจจะดับใช้การไม่ได้ ดังนั้นทางที่ดีเราควรเตรียมไฟฉาย หรือเทียนไขให้พร้อมก่อนดีกว่า เช็กให้แน่ใจด้วยว่ามีอุปกรณ์ครบพร้อมใช้งานทุกอย่าง ทั้งถ่านไฟฉาย เทียนไข ไฟแช็ก และควรเก็บของเหล่านี้ไว้ในที่ที่หยิบใช้งานได้สะดวกที่สุดด้วย เผื่อเกิดไฟดับขึ้นมาจะได้ไม่งงอยู่ในความมืดกันนานเกินไป


         เริ่มเข้าหน้าฝนกันแล้ว ยังไงก็อย่าลืมทำตามคำแนะนำที่เรานำมาฝากกันด้วยนะคะ บ้านจะได้ไม่โดนพายุฝนและลมแรง ๆ ถล่มให้ต้องเสียหาย ผ่านหน้าฝนกันมาได้อย่างปลอดภัย และถึงอย่างไรป้องกันไว้ก่อนก็ดีกว่าแก้แน่ ๆ จริงไหมจ๊ะ?