วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การจัดแต่งสวนสวยโดยใช้ฮวงจุ้ยเสริมสิริมงคล

ช่วงนี้มีเวลามาดูสวนเล็กหลังบ้าน ที่กำลังดีไซน์การตกแต่งจัดวางพอดีเลย ได้นำแนวไอเดียการแต่งตามสไตล์ฮวงจุ้ยมาเป็นหลักดังนี้

ตำราฮวงจุ้ยมีพูดถึงหลักในการจัดสวนเอาไว้ หลากหลายรูปแบบด้วยกัน และเป็นเรื่อง ที่น่าสนใจไม่น้อย ปัจจุบันคนก็หันมานิยมจัดสวนแต่งบ้านกันอย่างจริงจัง บางบ้านหมด เงินไปกับเรื่องนี้มากโขทีเดียว ลองมาดูกันสิว่า ในทางฮวงจุ้ยพูด ถึงการจัดสวน เอาไว้อย่างไร

   1. ตำแหน่งสวนควรอยู่ทางทิศตะวันออก การกำหนดพื้นที่สำหรับจัดสวนภายในบริเวณบ้าน ถือเป็นสิ่งแรกที่จะต้องพิจารณา การที่ตำราระบุว่า สวนควรอยู่ทางทิศตะวันออก ก็ด้วยเหตุผลที่ว่าทิศตะวันออกเป็นทิศที่พระอาทิตย์ขึ้น แสงแดดในยามเช้า จะช่วยส่งเสริมต้นไม้ให้มีความงอกงามและเขียวสด เพราะเป็นแสงที่ไม่แรงจนเกินไป ส่วนทางทิศตะวันออกถือว่าเหมาะสม เพราะต้นไม้จะได้รับแสงอาทิตย์ในยามเช้า

   2. สวนต้องครบองค์ประกอบของธาตุทั้ง 5 คือ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน และทอง สวนที่ดีจะต้องประกอบไปด้วย ต้นไม้ (ธาตุไม้) น้ำตก น้ำพุ อ่างบัว บ่อปลา (ธาตุน้ำ) แสงแดดส่องถึง(ธาตุไฟ) มีดินที่สมบูรณ์(ธาตุดิน) และที่สำคัญจะต้องมีการตกแต่งสวนอย่างสวยงาม(ธาตุทอง) ไม่ใช่ปล่อยให้รกรุงรัง กลายเป็นป่ามากกว่าสวน
 
   3. น้ำตกในสวนจะต้องหันหน้าน้ำตกเข้าบ้านเสมอ การตกแต่งสวนโดยมี น้ำเข้ามาเกี่ยวข้องในทางฮวงจุ้ยบอกเอาไว้ว่าจะต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกรณีของน้ำตก ที่มีการไหลของน้ำไม่เหมือนอย่างอื่น "หน้าน้ำตกจะต้องหันเข้าบ้าน ห้ามหันออกนอกบ้าน" เพราะการหันออกนอกบ้านจะหมายถึงการเงินไหลออก เพราะน้ำแทนความหมายของโชคลาภการเงินนั่นเอง นี่เป็นกฎเกณฑ์ที่จะต้องจำไว้ในการแต่งสวน
 
   4. บ่อน้ำ สระน้ำ รูปทรงต้องไม่ร้าย การขุดบ่อน้ำหรือสระน้ำในสวนนั้นสิ่งที่จะต้อง คำนึงถึงก็จะเป็นเรื่องของรูปทรงของสระนั้น ในทาง ฮวงจุ้ย จะให้ใช้รูปทรงที่ไม่ทำร้ายคนในบ้าน เช่น รูปทรงที่เป็นเหลี่ยม รูปทรงขนมเปียกปูน สามเหลี่ยม เป็นต้น ควรใช้รูปทรงโค้งมน หรือวงกลม จะถือว่าดี ีที่สุด

   5.ก้อนหิน วางผิดเป็นอุปสรรคใหญ่หลวง หิน มาตกแต่งสวนต้องระวังให้มาก โดยเฉพาะก้อนหินใหญ่เพราะในทางฮวงจุ้ย "ก้อนหิน" จะหมายถึงอุปสรรค การเลือกก้อนหินในการแต่งสวนจะต้องเลือกก้อนที่มีลักษณะกลมมน ห้ามเป็นเหลี่ยมคม หรือมีมุมแหลมก้อนหินที่มีรูก็เป็นลักษณะต้องห้ามเช่นกัน ตำแหน่ง ในการวางส่วนใหญ่ ่จะวางบริเวณมุมบ้าน ห้ามวางไว้หน้าบ้านหรือบริเวณที่ตรงกับประตูบ้าน

  6.บ้านเล็ก ห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่ บ้านที่มีขนาดเล็กมีพื้นที่จำกัดในการจัดสวน อย่างบ้านทาวน์เฮ้าส์ ห้ามเอาต้นไม้ใหญ่ ่มาปลูก เพราะจะก่อผลเสียมากกว่าผลดี สิ่งที่มองเห็นได้ชัด ก็คือ ต้นไม้ใหญ่จะทำลายฐานบ้าน และกิ่งก้านของต้นไม้ยังทำลายตัวบ้านอีกด้วย บ้านขนาดเล็กอย่างทาวน์เฮ้าส์ไม่ควรปลูก ต้นไม่ใหญ่ในบ้าน

  7.หลีกเลี่ยงไม้หนามในการแต่งสวน เรื่องต้นไม้ที่มีหนามแหลม ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่าเป็นข้อห้ามอยู่แล้ว เพราะหนามที่แหลมคมจะส่งผลกระทบ ต่อคนในบ้านได้ แต่บางคนอาจจะสงสัยว่าต้นไม้อย่าง เฟื่องฟ้า โป๊ยเซียน ที่คนนิยม นำมาปลูกในบ้านทำไมถึงไม่ห้าม ความจริงแล้วไม้หนามอย่างเฟื่องฟ้าหรือโป๊ยเซียน ก็เข้าข่ายเป็นต้นไม้ต้องห้ามเหมือนกัน เพราะมีหนามแหลม เพียงแต่ว่า ชื่อของต้นไม้เป็นมงคลเท่านั้น และต้นเฟื่องฟ้าส่วนใหญ่ ่จะนิยมปลูก ริมรั้ว หรือ กำแพง ซึ่งกลับเป็นผลดีในแง่ของการป้องกันสิ่งไม่ดีเข้าบ้าน เหตุผลที่ตำราห้ามเอาไว้อย่างนั้น ก็เพราะหนามแหลมของต้นไม้ อาจจะเกี่ยว คนเดินผ่านไปมาในบ้านได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กๆ นอกจากนี้ เวลาต้นไม้เติบโตเป็น ต้นไม้ใหญ่ จะเคลื่อนย้าย หรือตัดกิ่งของต้นไม้ค่อนข้างจะยากที่จะไม่โดยหนามเกี่ยว

     จะเห็นได้ว่า หลักเกณฑ์หรือข้อบัญญัติในทางฮวงจุ้ยที่เกี่ยวกับการจัดสวนนั้น เป็นข้อบัญญัติที่อยู่บนรากฐานของเหตุผล ที่สามารถทำความเข้าใจได้ ยังไงก็ลองนำไป ใช้ดูนะครับ ..

วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เกร็ดแต่งห้องนอนให้สบาย ต้อนรับหน้าฝน

เป็นธรรมดาที่เมื่อหน้าฝนมาเยือน หลายท่านจะไม่อยากลุกจากที่นอน ด้วยบรรยากาศที่แสนสบายชวนพักผ่อน การตกแต่งห้องนอนให้สวยน่าอยู่ตอบรับความสบายผ่อนคลายได้ดี จึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้าม ยิ่งใครที่เคยคิดว่าห้องนอนไม่สำคัญ เป็นเพียงพื้นที่ส่วนตัวไม่มีใครเห็น ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่แล้ว เพราะผลวิจัยด้านสุขภาพบอกว่า ร่างกายและจิตใจของคนเรานั้นจะดีได้ต้องเริ่มจากการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในพื้นที่ที่ถูกสุขลักษณะ การตกแต่งห้องนอน

เบื้องต้นควรเริ่มจากการจัดบรรยากาศให้อยู่สบาย ผ่อนคลายและอบอุ่น โดยควรเลือกสไตล์ที่ชอบมาตกแต่ง เพื่อสร้างความสุขทั้งต่อร่างกายและความรู้สึก ซึ่งรูปแบบต่าง ๆ ที่เลือกนั้น ต้องนำมาสร้างสรรค์ภายใต้ภาพรวมที่ดูโปร่งโล่ง สะอาดตา และง่ายต่อการดูแลรักษา สร้างความลงตัวให้ห้องนอนด้วยการจัดส่วนใช้งานอย่างเหมาะสม เพราะห้องนอนนอกจากจะทำหน้าที่เป็นที่นอนแล้ว หลายคนยังใช้ห้องนอนเป็นมุมนั่งเล่น มุมอ่านหนังสือและแต่งตัวด้วย การจัดฟังก์ชั่นภายในให้เอื้อต่อการใช้สอยสามารถทำได้จากการแบ่งพื้นที่ด้วยฉากชั้นแบบโปร่ง ๆ หรือฉากกั้นกระจกที่ไม่ทึบตัน ยิ่งถ้าห้องมีขนาดเล็กมาก ก็ควรอาศัยเฟอร์นิเจอร์ และพื้นที่ว่างมาแบ่งพื้นที่อย่างคร่าว ๆ แทนการกั้นผนังทึบ

ห้องนอนไม่ควรมีข้าวของรกรุงรัง เพราะจะนำมาซึ่งสิ่งไม่พึงประสงค์ เช่น ฝุ่น ผง ขยะมูลฝอยและแมลงต่าง ๆ จึงควรทำความสะอาดอยู่เสมอ และจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ อาศัยเฟอร์นิเจอร์มาช่วยในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป ผสมใช้ได้ทั้งแบบลอยตัวที่ง่ายต่อการปรับเปลี่ยน และแบบบิลต์-อิน (Built-in) ที่สามารถวางผังให้ชิดติดผนัง เช่น ชั้นวางหนังสือ ตู้ลอยแบบบานเลื่อนที่ดูเรียบร้อยไม่เกะกะพื้นที่ จัดวางเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง ไม่กีด-ขวางทางเดิน หรือช่องเปิดประตู-หน้าต่าง เพื่อปล่อยให้แสงและลมพัดผ่าน ช่วยถ่ายเทอากาศได้ดี โดยควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิดมุม และเว้นให้มีที่ว่างมากพอต่อการสัญจรหรือทำกิจกรรม พร้อมกับควรใช้โทนสีอ่อนที่ดูสะอาดสบายตามาเป็นโทนสีหลัก เช่นเดียวกับรายละเอียดของวอลเปเปอร์ ม่านและผ้าบุผ้าคลุมที่นอน ควรมีลวดลายไม่หวือหวาเกินไป เพื่อช่วยให้ดูสงบน่าพักผ่อน จัดแสงไฟให้สัมพันธ์กับการใช้งาน โดยพื้นที่ภายในห้องนอนอาจมีทั้งมุมที่ต้องใช้แสงสว่างมากและน้อยแตกต่างกัน เช่น มุมอ่านหนังสือ มุมแต่งตัว ที่ใช้แสงไฟสีขาวจะช่วยกระจายแสงได้ดี หรืออาจเพิ่มเติมด้วยโคมไฟตั้งพื้นและตั้งโต๊ะก็จะช่วยส่องสว่างมากขึ้น ในบริเวณส่วนนอนแนะนำให้เลือกใช้แสงไฟสีที่นวลตาจะชวนให้สบายตาและหลับได้ง่ายกว่า

หลีกเลี่ยงเสียงดังที่จะส่งผลต่อการนอนของคุณ ซึ่งถ้าทำได้ก็ควรเริ่มจากการเลือกตำแหน่งห้องนอน ไม่ให้อยู่ด้านที่ติดถนน หรือชุมชน นอกจากนั้นยังเสริมด้วยการใช้วัสดุที่ดูดซับเสียงได้ ก็จะช่วยให้นอนหลับสนิทมากขึ้น

การตกแต่งห้องนอนดีแค่ไหน ร่างกายและอารมณ์ของเราก็ดีเช่นนั้น ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ จากแนวทางข้างต้นนี้ รวมถึงการเติมเต็มด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น หาของประดับตกแต่งมาจัดวาง ทั้งภาพเขียน กรอบรูป แจกันดอกไม้ นาฬิกาปลุก และโต๊ะข้างเตียงที่มีลิ้นชักเก็บของให้จัดเก็บสิ่งที่จำเป็นได้ ก็ช่วยให้สะดวกสบายมากขึ้น เพียงเท่านี้คุณก็ใช้เวลาในห้องนอนได้อย่างเต็มที่ในหน้าฝนแล้วครับ..

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

การใช้สีทาห้องตามหลักฮวงจุ้ย


การจัดบ้านบางครั้งเราคงอยากให้สีสันของห้องต่างๆ ตามใจเรา และบางครั้งก็ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะใช้สีอะไรดี ก็ชอบหลายสี
วันนี้ผมมีแนวทางการจัดแต่งทาสีห้องตามหลักฮวงจุ้ยมาฝากกัน เผื่อจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และสอดคล้องกับธรรมชาติของห้องต่างๆ อีกด้วย ดังนีครับ

•สีเขียว เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สงบ และเป็นสีที่สามารถเยียวยารักษาร่างกาย จิตใจได้ จึงเหมาะกับห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น

•สีแดง เป็นสีที่จัด เข้มข้น ร้อนแรง ให้ความรู้สึกที่มีพลัง ตื่นเต้น เหมาะสำหรับห้องครัว ห้องอาหาร

•สีเหลือง เป็นสีที่มีชีวิตชีวา สามารถพัฒนาจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ได้ เหมาะสำหรับห้องทำงาน และห้องครัว

•สีฟ้า เป็นสีที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ เหมาะสำหรับห้องของผู้สูงอายุ หรือห้องของคนที่ป่วย ไม่สบาย

•สีส้ม เป็นสีของความความสุข สดใส มีชีวิตชีวา สนุกสนาน ร่าเริง เหมาะสำหรับห้องของเด็ก ห้องนั่งเล่น ห้องครัว

•สีม่วง เป็นสีของความมั่นคง สีนี้จึงเหมาะกับการตกแต่งห้องพระ

...ก็เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่นำมาฝากกันในการทาสีห้องต่างๆ ครับ...

วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

ฮวงจุ้ยห้องนอนเสริมรัก


ห้องนอนเป็นห้องที่มีความสำคัญมากที่สุดห้องหนึ่งของบ้าน และในทางฮวงจุ้ย ห้องนอนก็มีผลต่อทั้งสุขภาพ การงาน ความรัก และสภาพการเงินของเจ้าของห้อง โดยห้องนอนควรเป็นห้องที่มีความสงบ อันเป็นลักษณะของพลังหยิน

เพื่อที่เจ้าของห้องจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ตรงข้ามกับห้องทำงานหรือสำนักงาน ที่ควรมีการเคลื่อนไหวคึกคักอันเกิดจากพลังหยาง ลองใช้เคล็ดลับต่อไปนี้เพื่อสร้างสมดุลทางฮวงจุ้ยให้แก่ห้องนอนของคุณ


1. เตียงนอน ควรใช้เตียงที่ทำจากไม้ เพราะเตียงนอนที่ทำจากโลหะนั้น เป็นสื่อนำไฟฟ้า ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของคุณ และพยายามนำเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ ออกห่างจากเตียงของคุณ

2. เตียงนอนไม่ควรวางอยู่ใต้คานเปลือย และเตียงนอนไม่ควรวางข้างตู้ขนาดใหญ่ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อผู้พักผ่อน

3. แสงภายในห้อง ไม่ควรจะสว่างจ้าเกินไป (หยาง) หรือสลัวทึมเกินไป (หยิน) และอย่าลืมเรื่องเสียงรบกวนด้วย เพราะจะทำให้คุณและคู่รักหงุดหงิดได้

4. ถ้าห้องนอนของมีหน้าต่างกระจกใส ที่สามารถชมวิวสวยๆ นอกบ้านได้ ไม่ควรวางเตียงติดหรือใกล้กระจกมากเกินไป แม้ว่าคุณอยากจะนอนชมวิวภายนอกใจจะขาด เพราะพลังที่ผ่านเข้ามาจากภายนอก แม้จะไม่ทำให้คุณกับเขามีเรื่องมีราวถึงกับต้องเลิกรากัน แต่ก็จะส่งผลให้นอนไม่หลับหรือฝันร้ายอยู่เรื่อยๆ ไม่ควรวางกระจกไว้ตรงกับเตียง เพราะจะทำให้เสียสุขภาพ

5. ใต้เตียงนอน ไม่ควรเอาของที่ไม่ใช้แล้วไปเก็บไว้ โดยเฉพาะของที่แตกหักยับเยินห้ามเด็ดขาด! แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ไม่มีที่จะไว้ของแล้ว ก็ให้เลือกเก็บแต่ของใหม่ๆ ที่สำคัญต้องจัดให้เป็นระเบียบ ถ้าใต้เตียงรกมากๆ หรือเก็บของหักๆไว้ จะทำให้คุณหรือหวานใจมีสุขภาพไม่แข็งแรง แถมยังมีปากเสียงกันได้บ่อยๆ ด้วย

6. หน้าต่างห้องนอน ควรใช้ม่านบังตามากกว่ามู่ลี่กันแดดที่ดูแข็ง ไม่มีความพลิ้วไหวเหมือนกับผ้า เพราะห้องนี้ต้องการบรรยากาศที่นุ่มนวล ไม่ใช่ความเป็นงานเป็นการมากนัก เชื่อกันว่าถ้าใช้ม่านบังตาติด จะช่วยเสริมโชคเรื่องความรัก

7. หาแจกันดอกไม้ มาวางไว้ในห้องนอนสักหนึ่งอัน หรือจะเป็นกระถางต้นไม้ก็ได้ กระถางควรเป็นสีขาว ส่วนต้นไม้ให้เป็นสีแดงหรือสีชมพู จะช่วยเพิ่มพลังรักให้แข็งแรงมากขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการนำต้นไม้ใหญ่ไว้ในห้องนอน

8. ติดรูปที่ช่วยสร้างพลังหยิน เช่น พระจันทร์ หรือรูปที่ให้ความรู้สึกสงบ ไม่มีการเคลื่อนไหวรุนแรง ช่วยให้ผู้อาศัยพักผ่อนได้เต็มที่มากขึ้น หรือหากบ้านไหนอยากมีลูกให้ติดรูปเด็กไว้ในห้องนอน

9. หัวเตียงและผนังด้านหัวเตียง สามารถออกแบบให้สวยงามได้ ถ้าเตียงตั้งตรงกับประตูทางเข้าห้องนอน ให้แขวนคริสตัลไว้ระหว่างเตียงและพื้นที่ส่วนนั้น และหิ้งลอย ตู้ลอยไม่ควรอยู่บนหัวนอน จะทำให้เครียด เกิดโรคทางสมอง

10. อย่าหันหัวเตียงไปทางห้องน้ำเป็นอันขาด ดวงความรักที่กำลังรุ่งโรจน์อาจจะจะพุ่งลงเหวได้ง่าย เพราะจะต้องมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันไม่หยุดหย่อน

11. ไม่ควรหันปลายเท้าให้กับประตูห้องนอน เพราะเป็นสัญลักษณ์การนอนของคนตาย ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง หากปลายเตียงหันไปทางประตูห้องนอนพอดี จะมีเรื่องเดือดร้อนใจในครอบครัว สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง อาจมีคนเจ็บป่วยอยู่เรื่อยๆ ความอบอุ่นในบ้านจะลดน้อยลง ถ้าสุดจะเลี่ยง ก็ให้แก้ไขง่ายๆ ด้วยการติดกระจกบานเล็กๆไว้ที่ปลายเตียง เพื่อสะท้อนพลังอันเลวร้ายออกไป

12. พื้นห้องนอนควรเป็นสีพื้นเรียบๆ อาจมีลวดลายสบายตาได้บ้าง แต่สีพื้นสีเดียวไปเลยจะดีที่สุด หากปูพรม อย่าเลือกพรมที่มีลวดลายฉวัดเฉวียนน่าเวียนหัว เพราะจะส่งผลให้ความรักของคุณวุ่นวาย

13. อย่าใช้ผ้าห่มสีขาวเพราะหากนำมาคลุมร่าง จะเหมือนกับสัญลักษณ์ของคนตาย ผ้าปูที่นอนสีขาวแม้จะดูสะอาดสะอ้าน แต่ก็ไม่เหมาะกับห้องนอนนัก สีขาวโพลนจะส่งผลให้พลังความรักกระจัดกระจาย เลือกผ้าปูที่นอนที่มีสีจะดีกว่า

14. หาผ้าที่ทอด้วยด้ายสีทองหรือผ้าที่เป็นสีทองวางไว้บนเตียง เนื้อผ้าที่ส่องประกายแวววาว จะช่วยให้คุณสร้างบทรักบนเตียงได้ละเมียดละไมหวิวไหวยิ่งขึ้น

15. ถ้าช่วงไหนอารมณ์ร้อน อาจจะจากเรื่องงาน เรื่องเพื่อน จนพานโมโหคนรักบ่อยๆ ให้หาชามสวยๆ ใส่ก้อนหินหรือคริสตัลวางไว้ใต้เตียงนอน จะช่วยทำให้อารมณ์เย็นลง

16. อยากให้ความรักของคุณมั่นคง ให้หาหินควอตซ์ สีขาวใส ก้อนใหญ่พอประมาณ มาวางไว้ใต้เตียง

17. อย่าติดหลอดไฟที่ให้แสงส่องเป็นลำลงมาที่เตียงเป็นอันขาด เพราะความรักของคุณจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิง น่าปวดหัว ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้แขวนสร้อยลูกปัดที่ปลายเตียง เพื่อซึมซับพลังงานที่ขัดแย้ง ตั้งโคมไฟสว่างๆ ไว้บริเวณที่หัวเตียง เพื่อกระจายพลังงาน แทนการเปิดไฟที่ส่องมายังเตียงนอนโดยตรง

18. ตั้งโคมไฟโทนสีแดง ส้ม หรือชมพู ไว้ในห้องนอนด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะทำให้โชคดีด้านความรัก

19. หากคุณกำลังกังวลว่าเขากำลังจะมีกิ๊กหน้าใส ให้เปลี่ยนม่านหน้าประตูห้องนอน เป็นม่านที่ร้อยด้วยลูกปัด เชื่อกันว่าลูกปัดจะช่วยเก็บพลังงานรักให้อยู่เป็นที่เป็นทางไม่วอกแวกไปที่อื่น

20. หากเตียงนอนอยู่กึ่งกลางระหว่างประตูสองด้าน เช่น ประตูเข้าห้องและประตูห้องน้ำ ให้ย้ายตำแหน่งของเตียง หรือไม่ก็หาฉากสวยๆ มากั้น เพื่อให้พลังงานความรักนั้นรวมกันเป็นหนึ่ง


ลองจัดห้องนอนตามศาสตร์ฮวงจุ้ยดูนะครับ เป็นแนวจัดตามความเชื่อ ได้ผลเป็นอย่างไรลองบอกกันบ้างนะครับ...

วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555

วิธีป้องกันและจัดระเบียบบ้านรก


เริ่มเข้าช่วงหน้าร้อนแล้วนะครับ หลังจากปีที่ผ่านมาฝนค่อนข้างตกเยอะ และมีน้ำท่วมใหญ่อีกด้วย หลังจากนั้นมาการจัดเก็บบ้านที่อาจจะรู้สึกว่าบ้านช่วงนี้รกๆ ไม่เรียบร้อย ไหนที่มีของวางระเกะระกะอยู่เสมอจนเหนื่อยที่จะตามเก็บให้เข้าที่ ผมมีวิธีช่วยให้คุณรักษาความเรียบร้อยของบ้านให้พร้อมรับแขกผู้มาเยือน ที่อาจช่วยผ่อนแรงคุณแม่บ้านรวมทั้งพ่อบ้านไปได้บ้างดังนี้ครับ

1. อย่าจัดของทั้งบ้านในคราวเดียวเพราะจะทำให้คุณหมดแรงแน่ เริ่มจากส่วนที่เล็กๆ ก่อน เช่น ลิ้นชัก ชั้นวางของต่างๆ แล้วค่อยๆ ขยายไปยังส่วนที่มีปัญหามากขึ้น เช่น โรงรถ หรือห้องเก็บของ

2. กุญแจสำคัญคือหมั่นดูแล หากคุณหมั่นทำความสะอาดและเคลียร์พื้นที่ส่วนต่างๆ ให้เรียบร้อยทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จเสมอก็จะไม่เจอปัญหาข้าวของรกแน่ๆ

3. คว้าของทั้งหมดออกมาจากในตู้และลิ้นชัก แล้วนำมากองรวมกันและเลือกชิ้นที่คุณไม่ต้องการเก็บเข้าถุงบริจาค จะได้ไม่เหลือสิ่งที่คุณไม่ต้องการแล้วตกค้างให้รกตาอยู่อีก

4. ทุกๆ ปีให้หาลังใหญ่ๆ มาจัดแยกไว้ว่ากล่องไหนที่ต้องการเก็บของบริจาค ของที่ต้องนำไปทิ้ง และของที่ยังเก็บต่อไปได้อีกปีตามลำดับ

5. อะไรที่คุณไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องเก็บไว้ อย่าลังเล โยนทิ้งหรือบริจาคไปซะดีกว่า

6. ส่วนพื้นที่วางของบนโต๊ะ พยายามจำกัดให้มีเพียงสามชิ้น

7. อย่าพยายามสะสมแม่เหล็กติดตู้เย็น เพราะส่วนนี้แหละที่ทำให้บ้านดูรก

8. จัดเครื่องใช้สำนักงานใส่ตะกร้าหรือชั้นเอกสาร รวมทั้งกล่องเครื่องเขียนให้เป็นระเบียบ จะได้ไม่รกโต๊ะทำงาน

9. จัดสรรพื้นที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของเนื้อที่บ้านทั้งหมด เพื่อใช้จัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ

10. สามารถปรับใช้เฟอร์นิเจอร์บางอย่างให้เกิดประโยชน์ได้ เช่น นำหีบหรือลิ้นชักมาจัดวางเป็นที่เก็บของในห้องรับแขก เป็นต้น

หวังว่าคงเป็นแนวคิดในการจัดเก็บความรกรุงรังของบ้านให้บ้านของเรา ให้กลับมาน่าอยู่ น่ามอง สบายตา สบายใจกันรับหน้าร้อนนี้นะครับ...

วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การจัดแต่งห้องในแนวคอนโด


การเพิ่มความน่าสนใจให้กับห้องคอนโดพักอาศัยกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในคอนโด การเพิ่มความน่าสนใจ น่าอยู่ ไม่ใช่การเก็บข้าวของให้เป็นที่เป็นทาง หรือการวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆให้เหมาะสมเท่านั้น การใช้สีสันของสี รวมทั้งอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ รูปทรงแปลกๆมาเพิ่มเติมก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้คอนโดของคุณมีชีวิตชีวา ดูทันสมัย ไม่เหมือนใครได้อีกด้วย สำหรับเทคนิคในการตกแต่งที่จะนำเสนอให้คุณที่รักในการจัดแต่งบ้านสวย สบาย และสนุกเพิ่มขึ้นอีกด้วย นอกจากจะช่วยให้คอนโดที่คุณอาศัยดูทันสมัยแล้ว ยังทำให้คอนโดของเรานั้นดูใหม่อยู่เสมออีกด้วย

1.สวยเปลือยทันสมัย
ความสวยงามทันสมัยที่แฝงมากับความดิบของพื้นผิวผนังคอนกรีต ได้รับความนิยมแพร่หลายในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสวยทันสมัย แต่ไม่ต้องการความเรียบร้อยในสไตล์ modern พื้นผิวไม่ราบเรียบของผนังคอนกรีต มีสีสันและลวดลายที่น่าสนใจแตกต่างไปจากทุกมุมมองและตามสภาพแสง คุณสามารถเล่นกับพื้นผิวคอนกรีตเปลือยได้อย่างน่าสนใจโดยไม่ต้องพึ่งวัสดุตกแต่งชนิดอื่น ๆไม่ว่าจะเป็นการเว้นช่องวงกลมขณะก่อสร้าง การฉาบให้มีร่องริ้วรอยหรือการใช้แม่แบบหล่อทำให้เกิดลวดลายในตัว เช่น ลายผิวไม้จากแม่แบบไม้การใช้ผนังคอนกรีตเปลือยที่สวยเด่นเป็นพระเอกของห้องนอนนั้น คุณไม่จำเป็นต้องตกแต่งด้วยของตกแต่งโทนสีอื่นๆ ที่อาจไปดึงความโดดเด่นไปจากผนังคอนกรีตได้ ควรเลือกใช้โทนสีขาว สีเทารวมทั้งสีของไม้ธรรมชาติที่ดูเป็นสีกลาง


2. โมเดิร์นมากประโยชน์
ความสวยงามเรียบง่ายของสไตล์ modern ใช้เฟอร์นิเจอร์ทรงเรียบและน้อยชิ้นในการตกแต่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความโปร่งสบาย แลดูไม่รกสายตา นิยมใช้สีขาวเป็นหลักการตกแต่งในสไตล์ modern ที่ลงตัว ทุกสิ่งทุกอย่างจะมีการออกแบบให้มีความสวยงามแบบเรียบง่าย ขณะเดียวกันมีประโยชน์ใช้สอยพื้นที่เก็บของเช่น ตู้เสื้อผ้า จะถูกออกแบบให้ดูกลืนหายราวกับเป็นผนังเรียบ ชั้นวางของถูกออกแบบให้มีเส้นสายเรียบง่ายอย่างมีจังหวะจะโคนดูสวยงามราวรูปทรงกราฟฟิก นอกจากนี้ควรเพิ่มสีสันเติมไฮไลท์ให้ภายในห้องดูอบอุ่นสดใส อย่าปล่อยให้ห้องดูขาวโพลน แห้งแล้งและแข็งกระด้างจนเกินไปสามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้ของตกแต่ง เช่น แจกันหมอนอิง หรือภาพเขียน


3. สดใสง่ายดาย
ปรับโฉมห้องนอนให้สวยงามสดใสหายน่าเบื่ออย่างง่ายดาย ด้วยการเล่นกับสีสัน เริ่มต้นด้วยการทาสีผนังอันเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของห้องเลือกสีที่คุณถูกใจ หรือวัดใจลองเล่นกับสีใหม่ๆสีที่เหมาะสมกับการพักผ่อนในห้องนอนคือสีโทนอ่อนสบายตา สีฟ้าอ่อน ช่วยให้รู้สึกสดใสร่าเริงในยามตื่นนอน สีเขียวอ่อนช่วยให้จิตใจผ่อนคลายหายเครียด สีชมพูอ่อนสดใสดูแล้วชื่นใจแต่ไม่ควรใช้เป็นสัดส่วนที่มากเกินไป อาจทำให้ห้องดูแล้วไม่ผ่อนคลาย สีม่วงอ่อน ช่วยผ่อน คลาย ได้ดีเช่น เดียวกับ สีเขียว อ่อนสีเหลืองดูอบอุ่นสบายใจ ช่วยให้ร่าเริง แต่ไม่ควรทาสีเหลืองทั้งห้องเพราะอาจร่าเริงจนนอนหลับไม่ลงก็เป็นได้


4. หรูเข้มวินเทจ
ใครที่ชื่นชอบอารมณ์หรูหรา แต่ไม่ชอบความอลังการฟู่ฟ่าของสไตล์คลาสสิก คงต้องลองมาดูสไตล์ตกแต่งแบบวินเทจที่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์หรูหราแต่อบอุ่นคุ้นตาราวกับบ้านคุณคุณปู่คุณย่า สไตล์วินเทจสวยโดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวประเภทเตียงโลหะดัดโค้งสวยหรู และเก้าอี้เดี่ยวไม้แกะสลักทรงอ่อนช้อยเน้นของตกแต่งโทนสีเข้มหลากหลาย โทนสีแดงสีน้ำตาล สีน้ำเงิน หรือสีดำ ตัดกับห้องสีขาวสว่างการตกแต่งสไตล์วินเทจอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน เพราะบรรดาเฟอร์นิเจอร์ทรงโบราณอาจชวนให้คนขวัญอ่อนนอนสะดุ้งทั้งคืน


5. อารมณ์คันทรี่
การตกแต่งแนวคันทรี่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนจำนวนมาก และติดอันดับสไตล์ยอดนิยมตลอดกาล สวยงามด้วยโทนสีและเนื้อไม้ธรรมชาติ สะท้อนความอบอุ่นน่าพักผ่อน โดยมีการนำสีสันและลวดลายของของตกแต่งมาใช้ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ให้สดใสสวยงามมากขึ้นถ้าคุณชอบแนวเรียบง่าย ให้เลือกใช้ผ้าสีพื้นแนวธรรมชาติ หรือสีโทนอ่อน สำหรับอารมณ์สวยสะอาดแฝงความสนุกสนาน ควรเลือกใช้ลายตาราง และสำหรับคนที่ต้องการแซมความสวยหวานให้มองหาผ้าสวยลายดอกไม้


6. พักผ่อนสายกลาง
การตกแต่งในห้องนอนมีบรรยากาศน่าสบายอย่างร่วมสมัย เน้นความลงตัวของโทนสี และเฟอร์นิเจอร์ทรงสบายตาช่วยให้ห้องนอนของคุณสวยทนเหนือกระแสนิยมทุกรูปแบบ กฎพื้นฐานของการตกแต่งแบบร่วมสมัยสายกลาง ดูอบอุ่นน่าพักผ่อน ในขณะที่สวยเรียบทันสมัย และสว่างไสวโล่งสบายตา คือการเลือกใช้โทนสีกลางของไม้ธรรมชาติ สีเทา และสีขาวเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ทรงเรียบง่ายมีลูกเล่นสวยมีสไตล์ ไม่ฟู่ฟ่าเกินไป รวมทั้งนำสีสันเข้ามาแต่งเติมเล็กน้อยเพิ่มความสดใสมากกว่าเป็นการสร้างจุดเด่น ห้องนอนลักษณะนี้มีบรรยากาศน่าพักผ่อน แม้จะดูเรียบง่าย แต่ถ้าดูกันลึกซึ้งแล้วไม่ธรรมดา


 
  
"แอบมีมุมตกแต่งต้นไม้ :ลมหายใจของธรรมชาติ"  

นอกจากข้อมูลข้างต้นที่จะช่วยจัดห้องคอนโดของคุณให้ดูทันสมัยน่าอยู่แล้ว จัดสรรพื้นที่ใช้สอยให้มีความยืดหยุ่นด้วยการรวมพื้นที่บางส่วนเข้าด้วยกันในลักษณะของพื้นที่เอนกประสงค์ ปรับเปลี่ยนได้หลายประโยชน์ใช้สอยแต่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย อาทิ โต๊ะรับประทานอาหาร สามารถปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานได้ หรือ ใช้เป็นโต๊ะจัดเตรียมอาหาร, ชุดโซฟานั่งเล่น ใช้ได้ทั้งดูทีวี เล่นเกมส์ ทำงานและรับแขก เลือกใช้ระบบ wireless และ Note book ทำให้สามารถนั่งทำงานได้ในทุกๆส่วนของบ้านเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ

       
ท้ายสุดนี้เมื่อเราเลือกเฟอร์นิเจอร์ขนาดและรูปแบบต่างๆมาและจัดห้องต่างๆในคอนโดได้ตามที่เราต้องการแล้ว เราต้องรู้จักดูแลทำความสะอาดให้ดี เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ เพื่อให้คอนโดของเราคงความสวยงาม หยิบของใช้ได้สะดวก มีความเป็นระเบียบ ดูกว้างขวาง บรรยากาศโล่งโปร่งสบายตาอยู่เสมอเสมือนกับเราเพิ่งจัดใหม่ในครั้งแรก ทำให้รู้สึกว่าเราอยู่ห้องใหม่ๆ เวลาพักผ่อนของเราจะได้สมบูรณ์แบบอยู่เสมออีกด้วย

ฮวงจุ้ยทั่วไปสำหรับการเลือกซื้อคอนโด


จากบทความก่อน ผมได้นำเสนอการเลือกคอนโดในหลักทั่วไป และหลักในแนวทางฮวงจุ้ยก็ขอเสริมในบทความนี้นะครับ สำหรับการเลือกซื้อคอนโด โดยใช้หลักฮวงจุ้ยประกอบการตัดสินใจ และเลือกซื้ออีกแนวทางหนึ่ง

การเลือกซื้อคอนโดกับการเลือกซื้อบ้านนั้นแตกต่างกัน ฮวงจุ้ย ที่ใช้ประกอบการพิจารณาก็แตกต่างกันไปด้วย

หลัก ฮวงจุ้ย ในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียม

คอนโดรูปตัวแอล
หากจะเลือกซื้อห้องชุดในคอนโดที่เป็นรูปตัวแอล ควรเลือกห้องที่อยู่ทางด้านฐานของตัวแอลจึงจะดี แต่ถ้าสามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาคารรูปตัวแอลเป็นลักษณะที่ปราศจากพลังงานแห่งโชคลาภ

คอนโดรูปตัวยู
คอนโดที่มีรูปทรงคล้ายตัวยู ก็ถือว่าเป็นลักษณะที่ไม่ให้คุณนัก แต่ถ้าจำเป็นต้องเข้าอยู่อาศัย ขอให้พยายามเลือกห้องที่อยู่ทางด้านส่วนฐานของตัวยู อย่าเลือกห้องที่อยู่ทางฝั่งปีกทั้งสอง

ตึกไร้บารมี
ตึกแถวหรือคอนโดที่ตั้งอยู่โดดๆ กลางพื้นที่ว่าง ไม่มีตึกอาคารอื่นๆ มาตั้งอยู่ใกล้เคียง อาจดูดี เพราะไม่มีตึกอื่นบาบดบังทิศทางลมและทัศนียภาพ แต่ความจริงแล้วอาคารสูงในลักษณะดังกล่าว บ่งบอกถึงลักษณะแห่งความไร้อำนาจบารมี ผู้เข้าอยู่อาศัยจะได้รับพลังแห่งความโดดเดี่ยว ทำสิ่งใดมักมิได้รับความสนับสนุนและร่วมมืออย่างที่ควร

ความสูงของตึกข้างเคียง
ถ้ามีคอนโดหรือตึกแถวอยู่แวดล้อม ต้องสังเกตด้วยว่าความสูงของตึกอาคารในบริเวณข้างเคียงนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ตึกข้างหลังหากสูงกว่าตึกของเรา ถือว่าดี เพราะเปรียบเสมือนมีภูเขาสูงด้านหลังเป็นที่พึ่งพิง ตึกทางด้านซ้าย-ขวาที่ขนาบตึกของเราอยู่ ควรมีความสูงเท่ากัน เพื่อเปรียบเสมือนมีผู้คุ้มกัน เมื่อเข้าอยู่อาศัยแล้ว จะทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จ ตึกทางซ้ายหากมีความสูงกว่าตึกทางขวาก็มิเป็นไร แต่ถ้าตึกขวามือสูงกว่าถือว่าไม่ดี

คอนโดหลายอาคาร
คอนโดมิเนียมบางแห่งเป็นอาคารหลายหลัง อยู่ในบริเวณเดียวกันและมีความสูงเท่าๆ กันหมด การเลือกซื้อห้องชุด ขอให้เลือกคอนโดหลังที่อยู่ตรงกลาง โดยมีอาคารหลังอื่นๆ ขนาบข้างเป็นบริวาร หากไม่สามารถเลือกหลังกลางได้ ให้เลือกหลังใดก็ได้ที่อาคารอื่นๆ ขนาบข้างเสมือนบริวาร ควรหลีกเลี่ยงหลังแรกสุดกับท้ายสุด

รูปทรงคอนโด
ถ้าไม่สามารถหารูปทรงคอนโดที่เหมาะสมกับธาตุกำเนิดได้ ก็ขอให้เลือกคอนโดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งเป็นรูปทรงของอาคารสูงทั่วๆ ไปนั่นเอง ข้อสำคัญคือ อย่าเลือกคอนโดรูปทรงแปลกๆ แม้ว่าจะดูสวยหรือทันสมัยเพียงใดก็ตาม แต่รูปทรงแปลกๆ นั้นล้วนแต่มิใช่ลักษณะที่ให้โชคลาภแต่อย่างใด หลีกเลี่ยงรูปทรงเว้าๆ แหว่งๆ รูปทรง 6 เหลี่ยม 8 เหลี่ยม เหมาะกับสถานที่ราชการหรือโรงแรม ตัวอาคารควรเต็มทุกเหลี่ยมทุกมุม เพื่อให้เกิดความมั่นคงและสงบสุขในการอยู่อาศัย

ด้านหน้าคอนโด ควรเป็นลานโล่งรับชี่เข้าอาคาร

หลีกเลี่ยงอาคารที่มีรูปทรงส่วนเว้าหรือส่วนเกิน ไม่เป็นสี่เหลี่ยม จะทำให้เจ็บป่วยได้

ถ้าเป็นไปได้ เลือกรูปทรงอาคารให้ถูกโฉลกกับธาตุที่ต้องการของดวงผู้อยู่อาศัย ด้วยคำนวณจากการผูกดวงจีน
ธาตุทอง อาคารรูปทรงกลม หรือ มน หรือทรงกระบอกสูงๆ
ธาตุน้ำ อาคารรูปคลื่น
ธาตุไม้ อาคารสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูงๆ
ธาตุไฟ อาคารมีเหลี่ยมแหลมเยอะ เช่นสามเหลี่ยม
ธาตุดิน อาคารสี่เหลี่ยมจตุรัส หรืออาคารเตี้ยๆ
การเลือกชั้นอาคาร อาจใช้ตามหลักแผนผังเหอถู
ธาตุทอง ชั้นที่ลงท้ายด้วย 4,9
ธาตุน้ำ ชั้นที่ลงท้ายด้วย 1,6
ธาตุไม้ ชั้นที่ลงท้ายด้วย 3,8
ธาตุไฟ ชั้นที่ลงท้ายด้วย 2,7
ธาตุดิน ชั้นที่ลงท้ายด้วย 5,10
ห้องพักในคอนโดไม่ควรอยู่ตรงข้ามลิฟท์หรือบันได หรือติดก็ไม่ดี จะเก็บเงินไม่อยู่
ห้องพักในคอนโด ควรอยู่ตำแหน่งกลางๆของอาคารหรือของชั้นนั้น
ห้องพักไม่ควรอยู่ริมอาคารซ้ายสุดหรือขวาสุด หรือห้องที่อยู่สุดทางเดิน จะไร้โชคลาภ แต่ทั้งนี้ต้องดูองค์ประกอบของสิ่งแวดล้อมด้านนอกอาคารซึ่งอาจมีผลช่วยส่งเสริมห้องนั้นก็ได้
ทิศหลังห้องพัก ควรถูกโฉลกกับธาตุที่เจ้าของห้องต้องการ
ธาตุทอง ทิศตะวันตก
ธาตุน้ำ ทิศเหนือ
ธาตุไม้ ทิศตะวันออก
ธาตุไฟ ทิศใต้
ธาตุดิน ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้

หลักการเลือก ชั้นคอนโด มีหลายแบบขึ้นกับการเลือกใช้ ระบบฮวงจุ้ย ว่าจะเลือกระบบใด ซึ่งสามารถมองในภาพรวมได้ 2 แบบใหญ่ๆ คือ

1.เลือกโดย ดูพลังของธรรมชาติภายนอก แบบโดยรวม หรือเรียกว่า ยุค เป็นหลัก
2.เลือกโดย ดูจากตัวบุคคล เช่น ใช้ปีเกิด เป็นหลัก
หลักการเลือกชั้น คอนโด ตาม ยุค
ในหลักการของ ยุคทั้ง5 จะมีการแบ่งรอบปี 60 ปี หรือ 60 กะจื้อ ออกเป็น 5 กลุ่มธาตุ คือ ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ ธาตุไม้ ธาตุไฟ

•ช่วงปี พ.ศ. 2539 – 2550 จะเป็น ยุค ธาตุไฟ
•ช่วงปี พ.ศ. 2551 – 2562 จะเป็น ยุค ธาตุไม้
ชั้นของอาคารที่รุ่งเรืองในช่วง พ.ศ. 2539 – 2550 คือ ชั้นที่ลงท้ายด้วย 0 2 5 7 เช่น ชั้นที่ 2 5 7 10 12 15 17

ชั้นของอาคารที่รุ่งเรือง ในช่วง พ.ศ. 2551 – 2562 คือ ชั้นที่ลงท้ายด้วย 2 3 7 8 เช่น ชั้นที่ 2 3 7 8 12 13 17 18

ดังนั้นหากจะเลือกซื้อคอนโดใน ปี พ.ศ. 2550 เป็นช่วงที่กำลังข้ามเปลี่ยนยุค ควรเตรียมเลือกสำหรับอนาคตในยุคหน้าด้วย เลือกชั้นที่ลงท้ายด้วย 2 หรือ 7 จะเหมาะสมที่สุด แต่หากเลือกซื้อใน ปี พ.ศ. 2551 สามารถที่เลือกจำนวนชั้นได้มากขึ้น

ความรุ่งเรือง โดยนับตามยุคนั้น ใช้ได้กับทุกคน หากจะเปรียบเทียบก็เหมือนกับ ถ้าเราบอกว่า ในเมืองไทย มีกรุงเทพเป็นจังหวัดที่มีความเจริญมากที่สุด ดังนั้นภาพรวมของผู้อยู่อาศัยในกรุงเทพ ก็คือบุคคลที่ได้รับผลของความเจริญ ส่วนจะได้รับผลมากหรือน้อย รุ่งเรืองมากหรือน้อย บ้านใครจะมีรถไฟฟ้าผ่านหรือไม่ผ่าน อยู่ในกลางเมือง หรืออยู่ชานเมืองนั้นเป็นอีกประเด็นหนึ่ง

หลักการเลือกชั้น คอนโด ตาม ปีเกิด
ตอนนี้เรามีความรู้ในการ เลือกชั้นคอนโด ให้สอดคล้องกับยุค ถูกยุค ถูกสมัยแล้ว ... หลายๆท่าน อาจตั้งคำถามว่า แล้วจะเลือกให้ถูกทั้งยุค และถูกทั้งปีเกิดจะทำได้หรือไม่ อย่างไร

ธาตุ ปีเกิด
อันดับแรกที่เราต้องทราบ คือ ปีเกิดแต่ละปีเกิดมีธาตุเป็นธาตุอะไร หากคุณคุ้นเคยกับ ดวงจีน โป๊ยหยี่สี่เถียว ก็ไม่ต้องท่องจำอะไรเพิ่มเติมเลย เพราะใช้ธาตุเดียวกัน ... แต่หากคุณไม่ทราบ เรามาทบทวนกัน

•ปีชวด คือ ธาตุน้ำ
•ปีฉลู คือ ธาตุดิน
•ปีขาล คือ ธาตุไม้
•ปีเถาะ คือ ธาตุไม้
•ปีมะโรง คือ ธาตุดิน
•ปีมะเส็ง คือ ธาตุไฟ
•ปีมะเมีย คือ ธาตุไฟ
•ปีมะแม คือ ธาตุดิน
•ปีวอก คือ ธาตุทอง
•ปีระกา คือ ธาตุทอง
•ปีจอ คือ ธาตุดิน
•ปีกุน คือ ธาตุน้ำ
ให้เลือกปีเกิด ที่คุณเกิด แล้ว จำธาตุประจำปีไว้

หลักการเลือกชั้น
หลักการเลือกชั้น มีหลักการง่ายๆ คือ เลือกชั้นที่พลังธาตุเป็นธาตเดียวกันกับคุณ หรือ มาส่งเสริมคุณ โดยใช้หลักแห่ง ธาตุทั้งห้า หรือ เบญจธาตุ ดังนั้นเราจะได้ว่า

•ปีชวด ควรอยู่ชั้นที่ 1, 6, 4, 9
•ปีฉลู คือ ควรอยู่ชั้นที่ 2, 7, 5, 10
•ปีขาล คือ ควรอยู่ชั้นที่ 3, 8, 1, 6
•ปีเถาะ คือ ควรอยู่ชั้นที่ 3, 8, 1, 6
•ปีมะโรง คือ ควรอยู่ชั้นที่ 2, 7, 5, 10
•ปีมะเส็ง คือ ควรอยู่ชั้นที่ 2, 7, 3, 8
•ปีมะเมีย คือ ควรอยู่ชั้นที่ 2, 7, 3, 8
•ปีมะแม คือ ควรอยู่ชั้นที่ 2, 7, 5, 10
•ปีวอก คือ ควรอยู่ชั้นที่ 5, 10, 4, 9
•ปีระกา ควรอยู่ชั้นที่ 5, 10, 4, 9
•ปีจอ ควรอยู่ชั้นที่ 2, 7, 5, 10
•ปีกุน ควรอยู่ชั้นที่ 4, 9, 1, 6
เลขชั้นดังกล่าวคือ เลขลงท้ายของชั้น เช่น เลข 3 หมายถึง ชั้นที่ 3 , 23, 33, 43

มาถึงขั้นนี้คุณก็สามารถเลือกชั้นคอนโด ตามยุค และ ตามปีเกิดได้ตามความเหมาะสม

หลักการที่หยิบยกมานำเสนอกันไว้นี้ก็เป็นแนวทางตามหลักฮวงจุ้ย ซึ่งบางครั้งเราอาจจะเลือกไม่ได้ตามที่ว่าดังกล่าวทั้งหมด ผมว่าก็พอเป็นแนวทางก็เพียงพอแล้วครับ อาจไม่เป๊ะๆ ทั้งหมดก็ได้ เราอาจจัดแต่งแก้ไขได้ในภายหลัง หรือดัดแปลงเอาได้ครับ
..หวังว่าคงเป็นประโยชน์ในการเลือกคอนโดมิเนียม เพื่ออยู่อาศัย ได้พอสมควรนะครับ..

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การเลือกซื้อคอนโดมิเนียม


หลังเหตุการณ์อุบัติภัยน้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทยปีที่ผ่านมา คนในกรุงเทพและปริมณฑล ก็เริ่มมีแนวคิดเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยที่น่าจะปลอดภัยจากน้ำท่วม อาจจะมองเป็นที่อยู่อาศํยสำรองเผื่อไว้ก็ได้ จึงมีสัญญาณการซื้อห้องชุด คอนโดมิเนียม หรือคอนโดเพื่ออยู่อาศัยกันมากขึ้นอย่างชัดเจน วันนี้ผมจึงมีแนวทางการเลือกซื้อห้องชุด หรือคอนโดมาฝากเพื่อนๆ กันครับ เผื่อใครกำลังสนใจมองหาหรือเลือกซื้อคอนโดกันอยู่

เมื่อคุณตัดสินใจจะซื้อคอนโดมิเนียม สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง ทำเล, งบประมาณ และขนาดพื้นที่ของห้องที่คุณต้องการซื้อ หลายท่านอาจจะเลือกคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้กับที่ทำงาน บางท่านเลือกใกล้สถานศึกษา ตลอดไปจนถึงห้างสรรพสินค้า หรือ โรงพยาบาล สำหรับงบประมาณนั้นโดยปกติแล้วก็ขึ้นอยู่กับราคาของทำเล ที่ดิน การก่อสร้าง และสิ่งอำนวยความสะดวก ข้อพิจารณาเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อคอนโด อย่างไรก็ตามการตรวจสอบรายละเอียดของตัวอาคาร และเรื่องเอกสารต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรที่จะละเลย นอกเหนือไปจากทำเล และ งบประมาณ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของตัวคุณเอง สิ่งที่คุณควรตรวจสอบก่อนตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดมิเนียม

ขนาดพื้นที่

ถ้าคุณให้ความสำคัญกับขนาดพื้นที่ห้องมาก คุณก็ควรจะนำตลับเมตรไปวัดด้วยตัวคุณเองเลย ว่าตรงตามที่ผู้ขายประกาศไว้หรือไม่ เมื่อคุณทราบขนาดพื้นที่ที่ถูกต้องแล้ว คุณก็ยังสามารถนำมาคำนวณเปรียบเทียบราคาต่อตารางเมตรได้อีกด้วย

ที่จอดรถ

คุณควรตรวจสอบดูว่าพื้นที่ ที่จอดรถของคอนโดมิเนียมนั้นๆ มีเพียงพอกับจำนวนยูนิตทั้งหมดหรือไม่

การก่อสร้าง

คุณอาจจะสอบถามจากบริษัทที่ดูแลคอนโดมิเนียมได้ ว่าวัสดุที่ใช้ก่อสร้างมีความแข็งแรงคงทนเพียงไร เป็นวัสดุชนิดไหน นอกจากนี้วัสดุที่กั้นห้องมีความหนามากน้อยเพียงไร มีเสียงเล็ดลอดจากเพื่อนห้องดังไหม หรือห้องที่อยู่เหนือคุณขึ้นไป มีเสียงดังรึเปล่า ในกรณีที่มีการเดินแรงๆ

ระบบสาธารณูปโภค และ รักษาความปลอดภัย

ทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวมานี้ มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จะเข้าอยู่อาศัย ระบบน้ำไฟ เป็นอย่างไร ในกรณีที่อยู่ชั้นสูงๆ น้ำประปาไหลแรงเพียงพอหรือไม่ หากเกิดไฟดับ มีระบบไฟฉุกเฉินเพียงพอหรือไม่ การรักษาความปลอดภัย มียามตลอด 24 ชม. ระบบการจัดเก็บขยะ การจัดและรับส่งไปรษณีย์ ตรวจสอบว่ามีการติดตั้งเครื่องตรวจควัน (smoke detector) หัวฉีดน้ำ (spinkle) ในตัวอาคารและห้อง บันไดหนีไฟมีขนาดได้มาตรฐาน หรือไม่ นอกจากนี้ ตรวจสอบดูว่าลิฟท์โดยสาร มีเพียงพอกับจำนวนคนที่พักอยู่หรือไม่ เวลาการเปิดปิดลิฟท์เป็นอย่างไร

สัญญา

โดยปกติแล้ว ผู้ซื้อทั่วๆ ไปจะละเลยต่อรายละเอียดของสัญญา เนื่องจากมีเนื้อหาค่อนข้างมากและเป็นตัวบทกฎหมายส่วนใหญ่ หากจะให้ดีคุณควรมีนักกฎหมายคอยให้คำแนะนำ เพื่อทราบถึงสิทธิ ผลประโยชน์ ที่คุณจะได้รับหรือเสีย ตัวอย่างเช่น หากคอนโดมินเนียมที่คุณซื้อแล้ว เกิดเพลิงไหม้เสียหายทั้งตึก คุณจะได้รับค่าชดใช้หรือไม่ เพียงใด

ทำเลของห้อง

ผู้ซื้อส่วนใหญ่ลืมที่จะคิดไปว่า ห้องที่คุณเลือกแล้วนั้น นอกจากวิวทิวทัศน์ดีแล้ว แต่แสงแดดที่ส่องเข้าห้องคุณมีผลกระทบกับคุณหรือไม่ บางคนไม่ชอบที่จะให้แดดส่องเข้าห้องในตอนบ่าย เพราะจะทำให้ห้องของคุณร้อนมาก หรือห้องบางคนไม่มีแสงเข้าเลยทั้งช่วงเช้าและบ่าย

อายุ

หลายคนอาจจะสงสัยว่า อายุมีอิทธิพลกับการเลือกคอนโดมิเนียมได้อย่างไร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ lifesytle ของผู้เข้าอยู่เป็นสำคัญ คอนโดมิเนียมที่คุณสนใจอยู่นั้น ผู้เข้าอาศัยอาจจะเป็นวัยรุ่นซะเป็นส่วนใหญ่ หากคุณมีครอบครัว หรือ คุณต้องการความเงียบสงบ ชุมชนนั้นเหมาะกับคุณหรือไม่ คุณจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับชุมชนได้หรือไม่ อย่าลืมว่าคอนโดมิเนียม ก็เป็นชุมชนเล็กๆ ของคุณ เช่นเพื่อนห้องที่ติดกัน

ระเบียบเงื่อนไขการอยู่อาศัยของคอนโดมิเนียม

ระเบียบข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ต่างๆ จะแตกต่างกันไปในแต่ละคอนโดมิเนียม อย่างไรก็ตามเราควรที่จะรู้ถึงข้อควรปฎิบัติและข้อห้ามเหล่านั้นด้วย โดยทั่วๆ ไปแล้ว บางคอนโดมิเนียมจะไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยง ประเภท สุนัข หรือ แมว มาเลี้ยง บางสถานที่ไม่อนุญาตให้ทำอาหารภายในห้อง โดยใช้เตาแก๊ส บางแห่งไม่อนุณาตให้ขนของ หรือต่อเติม ห้องในวันเสาร์และอาทิตย์

นิติบุคคลอาคารชุด

คงจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า ทุกคอนโดมิเนียมจะต้องมีนิติบุคคลอาคารชุด และ คุณก็ควรที่จะต้องทราบถึงระเบียบต่างๆ ของนิติบุคคลอาคารชุด เช่น ค่าส่วนกลางเป็นเท่าไหร่ ต่อเดือน คอนโดมิเนียมบางแห่งราคาถูก แต่อาจจะต้องจ่ายค่าส่วนกลางแพง (ค่าส่วนกลางเป็นเงินที่เจ้าของ ทุกห้องจะต้องชำระให้กับนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อที่จะนำเงินเหล่านี้ไปใช้จ่ายในการบริหาร และ บริการในส่วนต่างๆ ที่เป็นส่วนกลาง เช่น เงินเดือนยาม ค่าไฟฟ้าทางเดิน ค่าไฟฟ้าของลิฟท์ ค่าบำรุงซ่อมแซมต่างๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ตามกฎหมายของเจ้าของห้องชุดทุกห้อง)

ข้างต้นนี้ก็แนวทางเลือกอย่างคราวๆ ต่อไปเรามาว่ากันในส่วนของห้องที่จะเลือกซื้อควรเป็นอย่างไรกันครับ

ตำแหน่งห้องตรงไหนดี?


หลังจากเลือกทิศทาง เลือกด้านที่เหมาะสมได้แล้ว เราก็มาดูตำแหน่งห้องในแต่ละชั้นกันบ้างว่าควรเลือกห้องแบบไหน ผมมีข้อแนะนำดังนี้

อย่าเลือกห้องที่อยู่ใกล้ลิฟท์เกินไป
เพราะจะมีเสียงรบกวนจากการใช้งาน ทั้งลิฟท์ ทั้งคน ลิฟท์คอนโดบางแห่งผนังรอบช่องลิฟท์เป็นก่ออิฐไม่ได้หล่อคอนกรีต เสียงลิฟท์วิ่งขึ้นลง ดังลอดมาถึงห้องพักได้ก็มี ยิ่งห้องที่เป็นทางสามแพร่ง ออกจากโถงลิฟท์แล้วเจอประตูเข้าห้องเป๊ะ นี่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่ดีทั้งฮวงจุ้ยและเสียความเป็นส่วนตัวครับแต่บางทีห้องที่ไกลลิฟท์มากๆ ก็เมื่อยขาเวลาเดินเหมือนกัน ยิ่งคอนโดที่ corridor ยาวๆ เดินกันขาลากเลย ดังนั้น เอาห้องที่อยู่กลางๆดีที่สุด

อย่าซื้อห้องใกล้หรือตรงข้ามห้องขยะ
ทุกคอนโดต้องมีห้องขยะ ถ้าไม่มีเป็นห้องเฉพาะ ก็มักจะวางกันในโถงบันได หรือโถงลิฟท์ขนของ
การอยู่ห้องตรงข้ามห้องขยะ ถือเป็นฝันร้ายของการอยู่คอนโดอย่างแท้จริง เพราะต่อให้ออกแบบได้มิดชิดแค่ไหน ก็มีโอกาสที่กลิ่นไม่พึงประสงค์จะเล็ดลอดออกมาให้ชื่นชม ไหนจะเสียงปิดเปิดประตูอีก ทั้งเจ้าของห้อง ทั้งแม่บ้านที่มาเก็บรวมรวมขยะ วันนึงๆต้องมีหลายรอบ อยู่ไม่มีความสุขแน่ครับ แถมขายต่อก็ยากการออกแบบที่ดี สถาปนิกควรจัดห้องขยะให้ไปอยู่ในส่วน service core หรือในพื้นที่ที่ไม่ต่อเนื่องกับทางสัญจร ซึ่งระยะหลังจะเริ่มทำกันมากขึ้น สงสัยโดนฝ่ายการตลาดบ่นเยอะ

เลือกห้องที่ประตูไม่ตรงกับห้องตรงข้าม
ถ้าเลือกได้ เลือกห้องที่ประตูไม่ตรงกับห้องตรงข้าม จะทำให้ได้ privacy ในการอยู่อาศัย คอนโดที่พิถีพิถันในการออกแบบจะขยับประตูห้องพักให้เยื้องไปมาไม่ตรงกัน แบบนี้ถือว่าออกแบบได้ละเอียดใช้ได้

ห้องอยู่ใกล้บันได
บางคนไม่ชอบห้องแบบนี้ด้วยเหตุผลที่ว่า จะมีเสียงคนเดินพลุกพล่าน อันนี้ก็จริงครับถ้าเป็นบันไดหลัก แต่ถ้าเป็นบันไดหนีไฟที่เอาไว้หนีไฟจริงๆ ผมมองว่าไม่เสียหาย อาจจะดีซะอีกที่อยู่ใกล้ เพราะหากเกิดเหตุอัคคีภัยขึ้นเราจะได้หนีทัน ในการใช้งานปกตินั้น บันไดหนีไฟจะไม่มีใครเข้าไปใช้ จึงไม่เป็นการรบกวนครับข้อแตกต่างระหว่างบันไดหลักกับบันไดหนีไฟคือ บันไดหลักจะมีขนาดใหญ่กว่า กว้างกว่า และทางเข้าออกบันไดหนีไฟจะเป็นประตูเหล็กที่มีตัวผลักที่เป็น bar ยาวๆ ผลักเข้าแล้วต้องผลักกลับเข้ามาไม่ได้ วิ่งลงชั้นล่างหรือออกดาดฟ้าได้อย่างเดียวครับ (เป็นเหตุผลด้านความปลอดภัย)

ห้องหัวมุม
เป็นห้องที่ถือว่าได้เปรียบห้องอื่นๆ เพราะมีพื้นที่หน้าต่างมากกว่าชาวบ้านเขา ทำให้ได้มุมมอง แสงสว่าง การระบายอากาศที่ดีขึ้น แต่อย่าลืมดูทิศทางประกอบด้วยนะครับ เลือกมุมที่ไม่ร้อนจนเกินไป
แม้ในตำราฮวงจุ้ยจะไม่ชอบห้องมุมนัก แต่ในความเป็นจริงห้องหัวมุมจะราคาดีกว่า ปล่อยขายให้เช่าได้ง่ายกว่าห้องธรรมดาครับ

ชั้นที่ไม่ควรเลือก

ด้วยความที่ผู้คนไม่ชอบเลข 13 ทำให้ตึกส่วนใหญ่ชั้นนี้ถูกตัดออกไป จาก 12 ข้ามไป 14 เลย ตึกที่ตัดไม่ทันก็ใช้วิธีเปลี่ยนชั้นที่ 13 เป็น 12A แต่ลิฟท์ไม่ได้แก้ตามทำให้เสียงขานชื่อ floor ของลิฟท์ยังเป็น Thirteen floor อยู่ ก็ตลกดี ถ้าเจออะไรพรรค์นี้ก็หลีกเลี่ยงไว้ดีกว่าครับ

สำหรับคอนโดประเภท LowRise 8 ชั้น ชั้นที่ไม่ควรเลือกคือชั้น 2 เพราะใกล้พื้นเกิน วิวไม่ดี และอาจมีเสียงและควันไอเสียรบกวนจากลานจอดรถยนต์ที่ชั้นล่างได้ นอกจากนี้ยังน่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะแค่บันไดอลูมิเนียมอันเดียวก็พาดปีนขึ้นไปในห้องได้แร้ว

ชั้นที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับคอนโดอีกชั้นหนึ่งคือชั้นบนสุด เนื่องจากความร้อนจากชั้นดาดฟ้าอาจจะแผ่ลงมาถึงเพดานห้องเราได้ และอาจพบปัญหาน้ำรั่วซึมจากพื้นดาดฟ้า

ปัญหาเรื่องน้ำรั่วซึมนั้นมีประจำแทบทุกตึกละครับ เวลาที่มีน้ำหยดลงมาทำความเสียหายให้ห้องเรา กรณีเช่นนี้แน่นอนว่าทางตึกต้องรับผิดชอบ หรือถ้ามีประกันก้อให้ประกันจัดการ แต่มันก็น่าหงุดหงิดมิใช่น้อย ดังนั้นหลีกเลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่า อันนี้รวมถึงห้องที่อยู่ใต้สระว่ายน้ำหรือมีห้องน้ำอยู่เหนือห้องก็ควรอยู่ห่างๆไว้เช่นกัน เพราะเสี่ยงเรื่องน้ำรั่วและอาจมีเสียงดังจากปั้มน้ำด้วย

เลือกห้องอย่าลืมดูการจัดวางแปลนห้อง

เลือกห้องน้ำที่มีการระบายอากาศ
ถ้าเลือกได้ เลือกห้องน้ำที่มีหน้าต่างเปิดสู่ภายนอก จะช่วยในเรื่องการระบายอากาศ ถูกสุขอนามัยไฮจีนิคส์ และเหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทยครับ ห้องน้ำที่ไม่ติดหน้าต่างจะต้องมีพัดลมดูดอากาศและต้องเปิดไฟเมื่อใช้งาน ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน และถ้าไม่ดูแลความสะอาดให้ดีอาจทำให้อับชื้น

ระเบียงเป็นสิ่งจำเป็น
คอนโดปัจจุบันบางแห่งออกแบบมาไม่มีระเบียงเลยอ้างว่าไม่จำเป็น แต่ผมคิดว่ายังน่าจะมีไว้อยู่ครับ แม้ว่าปัจจุบันคนรุ่นใหม่นิยมใช้บริการ laundry มากขึ้น หรือถ้าซักผ้าเองก็มีเครื่องอบผ้า แต่ระเบียงก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเอาไว้ตากอะไรเล็กๆน้อยๆเช่น ผ้าขี้ริ้ว ม๊อบถูพื้น ผ้าเช็ดตัว หรือกางเกงใน หรือเอาไว้เป็นที่สูบบุหรี่ของเพื่อนๆเวลาจัดปาร์ตี้ได้นอกจากนี้ การมีระเบียงยังช่วยบังแดดกันฝนไม่ให้โดนหน้าต่างตรงๆด้วยครับ ยิ่งเป็นห้องที่หันทิศใต้ควรมีระเบียงอย่างยิ่ง ไม่ต้องกว้างมากซัก 1 เมตรก็กันแดดได้เยอะแล้วละครับ

ห้องน้ำสำหรับห้อง One bedroom
คอนโดแบบ1ห้องนอน มักจะมีห้องน้ำเพียง 1 ห้อง ใช้เป็นห้องน้ำของห้องนอนและใช้เป็นห้องน้ำรับแขกด้วย ถ้าเลือกได้ควรเลือกห้องน้ำที่เปิดเข้าจากในห้องนอน จะสะดวกในการใช้งานมากกว่าห้องน้ำที่เปิดจากห้องนั่งเล่น

เลือกห้องที่มีความ unique
ข้อนี้เป็นของแถม เป็นเทคนิกเล็กๆน้อยๆ คือ ถ้ามีโอกาสเจอห้องที่มีลักษณะพิเศษบางอย่างที่ห้องอื่นเขาไม่มี อย่างเช่น เป็นห้องที่มีสวนส่วนตัว หรือมีพื้นที่ระเบียงกว้างเป็นพิเศษและไม่มีหลังคา หรือเป็นห้องที่อยู่ชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ สามารถเดินนวยนาดจากห้องออกมาโดดลงสระได้ทันที หรือ One-bed ห้องเดียวในฝั่งTwo-bed หรือ เป็นห้องเดียวในตึกที่มีหน้าต่างเปิดออกไปแอบดูบ้านดาราข้างๆคอนโดได้ ฯลฯ ห้องพวกนี้เรียกว่ามีความ unique คือมีจุดขาย ที่ห้องอื่นๆในตึกไม่มี ซึ่งข้อนี้ก็เป็นจุดนึงที่ทำให้ห้องมีความโดดเด่น ทำให้การขายต่อง่ายกว่าห้องเพลนๆที่หาได้ทั่วไปในตึกครับ..

ทั้งหมดนี้คงเป็นแนวทางในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมให้กับคุณๆ ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ...